ข้อมูล On-chain แสดงให้เห็นว่า ค่าความยากในการขุดของ Bitcoin ลดลงเหลือ 31.36 ล้านล้านแฮชที่บล็อก 756,000 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ระบบนิเวศของ Bitcoin ยังคงได้รับการปกป้องโดยเครือข่ายบล็อคเชนที่ปลอดภัยที่สุด ตามข้อมูลจาก BTC.com ระบุว่า การปรับค่าความยากในการขุด Bitcoin ลดลงประมาณ 2.3% ในวันที่ 28 กันยายน
การลดลงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์หลังจากตัวเลขพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32.04 ล้านล้านแฮชที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 ครั้ง
ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุ 20,000 ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีนักลงทุนใช้โอกาศนี้ทำกำไรจากการเทขายเหรียญออกจากกระเป๋าของพวกเขา หลังจากนั้นมา Bitcoin สูญเสียมูลค่าไปประมาณ 6% และกลับมาซื้อขายอยู่ที่ระดับ 19,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการขุดของสินทรัพย์ดูเหมือนจะเฟื่องฟู เนื่องด้วยการแข่งขันระหว่างบริษัทนักขุดรายใหญ่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
hashrate ของ Bitcoin ยังคงอยู่ที่ 220.75 EH/s ใกล้กับจุดสูงสุดที่ 231 EH/s แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรก็ตาม
hashrate ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการให้ความสำคัญกับการปล่อยคาร์บอนของ Bitcoin การวิพากษ์วิจารณ์การใช้พลังงาน สิ่งเหล่านี้ได้กระตุ้นให้มีความพยายามในการควบคุมสินทรัพย์อีกครั้ง
นักขุดที่มีอยู่กำลังเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น จากการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์โดย Cambridge Center for Alternative Finance (CCAF) ระบุว่า เชื้อเพลิงฟอสซิลคิดเป็นสัดส่วนเกือบสองในสามของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้สำหรับการขุด Bitcoin ประมาณ 62.4% ในขณะที่แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนคือ 37.6% (พลังงานหมุนเวียน 26.3% และนิวเคลียร์ 11.3%)
แหล่งพลังงานหมุนเวียนในการขุด Bitcoin ลดลงเกือบ 30% ในปี 2021 จากที่มากกว่า 40% ในปี 2020 ซึ่งทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นถึง 63%
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram