การค้นหาคำว่า “NFT” และ “nonfungible token” กลายเป็นที่นิยมสูงมากกว่าการค้นหาคำว่า “Dogecoin”, “Blockchain” และแม้แต่ “Ethereum”
ข้อมูลค้นหาคีย์เวิร์ดบน Google พบว่า ระดับความสนใจ nonfungible token (NFT) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) โดยมีปริมาณค้นหามากกว่าคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคริปโตจำนวนมากที่ติดหนึ่งในสิบอันดับแรก ๆ
ข้อมูลจาก Google Trends พบว่า ระดับความสนใจ NFT เพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงต้นปี เนื่องจากมีการเก็งกำไรใน NBA Top Shot ของ Dapper Labs และ NFT ฐาน Ethereum อย่างบ้าคลั่ง
ในตอนแรกเริ่มปรากฏฟองสบู่ในช่วงสั้น ๆ ปริมาณค้นหาลดลงประมาณ 75% ช่วงปลายเดือนมิถุนายน แล้วความสนใจก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะทำระดับสูงสุดใหม่ในเดือนตุลาคม
ตั้งแต่นั้นมา ปริมาณค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ NFT บน Google พุ่งขึ้นต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
ระดับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การค้นหา “NFT” แซงหน้าคีย์เวิร์ดหลักที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมาอย่างยาวนาน อย่างคำว่า “DeFi”, “Ethereum” แม้แต่ “Blockchain” ไปได้
ขณะที่ Dogecoin มีการค้นหาคับคั่งในช่วงไตรมาสที่สอง ปริมาณค้นหา “Dogecoin” เพิ่มขึ้นแข่งกับ “Bitcoin” ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม แล้วลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สาม ข้อมูลจาก Google Trends พบว่า โมเมนตัมที่อยู่เบื้องหลังเหรียญหน้าสุนัขหายไปกลับไปคึกคักใน NFT ทันที
NFT คึกคักมากในเอเชีย
ข้อมูลจาก Google Trends ยังพบอีกว่า ปริมาณการค้นหา NFT ในปัจจุบัน คึกคักมากในเอเชีย ได้แก่ จีน ยูกันดา สิงคโปร์ ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ เป็นอันดับแรก ๆ ในการค้นหาคีย์เวิร์ดนี้
ปริมาณค้นหา NFT จากจีน พุ่งสูงสุดในช่วงวันที่ 5-11 กันยายน ปีนี้ เดือนก่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง Tencent เปิดตัว Huanhe แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT และ Alibaba เปิดตัวมาร์เก็ตเพลซที่ช่วยให้ผู้ใช้งานซื้อขายใบอนุญาตเพื่อสร้าง NFT จากคอนเทนต์ที่มีลิขสิทธิ์ได้
ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ออกแถลงการณ์ประณาม NFT ผ่านสื่อทางการของรัฐ เมื่อวันที่ 10 กันยายน มีแนวโน้มว่าทำให้ปริมาณการค้นหาลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ที่มา : cointelegraph.com