สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีมติเห็นชอบออกกฎใหม่สำหรับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ โดยกำกับดูแลศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลห้ามให้บริการโทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ (Utility Token พร้อมใช้) และคริปโทเคอร์เรนซีตามที่กำหนด ได้แก่ Meme coin, Fan coin และ NFT (non-fungible token)
ประเทศไทยออกกฎกำกับดูแลตลาดซื้อขายคริปโต ห้ามศูนย์ซื้อขายให้บริการคริปโตบางประเภท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.มีมติเห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีมติเห็นชอบให้ออกประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 18/2564
โดยประกาศดังกล่าวห้ามศูนย์ซื้อขายให้บริการ “Utility Token พร้อมใช้” หรือคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ มาซื้อขายในศูนย์ซื้อขาย
(1) Meme token: ไม่มีวัตถุประสงค์หรือสาระชัดเจนหรือไม่มีสิ่งใดรองรับโดยมีราคาขึ้นอยู่กับกระแสในโลกโซเชียล
(2) Fan Token : เกิดจากกระแสความชื่นชอบส่วนบุคคล
(3) NFT : Non-Fungible Token
การสั่งห้ามยังรวมถึง (4) โทเคนดิจิทัลที่ออกโดยศูนย์ซื้อขายเองหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขายเพื่อวัตถุประสงค์ ในการใช้ประโยชน์สำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน (blockchain)
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ไม่ได้กล่าวถึงชื่อเหรียญใดเป็นการเฉพาะ คริปโตเคอร์เรนซีมีมชื่อดัง อย่าง Dogecoin (DOGE) และ Shiba inu coin (SHIB) อาจได้รับผลกระทบหรือไม่ ยังเป็นประเด็นคำถาม
นอกจากนี้ กำหนดให้ศูนย์ซื้อขายต้องจัดให้มีข้อกำหนดว่า “ในกรณีของโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยศูนย์ซื้อขายเองหรือออกโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขาย” หากผู้ออกโทเคนดิจิทัลดังกล่าวไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดในไวท์เปเปอร์ (white paper) และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในสาระสำคัญ จะเป็นเหตุให้ศูนย์ซื้อขายเพิกถอนโทเคนดิจิทัลดังกล่าวออกจากการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายได้ ก.ล.ต.เตือน
จากประกาศเตือนของ ก.ล.ต. ทั้งนี้ ศูนย์ซื้อขายต้องปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว และต้องดำเนินการแก้ไข listing rule ของศูนย์ซื้อขายให้เป็นไปตามประกาศให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ
มติเห็นชอบดังกล่าว ได้ลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง
ที่มา : news.bitcoin.com, sec.or.th
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต