โครงการ Digital Dollar Project ในสหรัฐฯ เริ่มนำร่องโครงการเพื่อทดสอบหาแนวทางว่า การออกสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคากลาง (CBDC) จะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง
องค์กรที่นำโดยอดีตผู้บริหารหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินสหรัฐฯ และผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษา Accenture ประกาศความตั้งใจจะเปิดตัวภายในปีหน้า โครงการนำร่องห้าโครงการย่อยชุดแรกจะประเมินแง่มุมต่าง ๆของดอลลาร์ดิจิทัล (Digital Dollar)
ดอลลาร์ดิจิทัล (Digital Dollar) สกุลเงินสหรัฐฯ อยู่ในรูปแบบของโทเคนออกโดยธนาคาร จะช่วยให้ปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางเงินแก่ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked) ได้ง่ายขึ้น และทำให้ง่ายต่อการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล คนไม่เห็นด้วยอาจมองว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจเหมาะสมกว่า ทว่ามีหลายประเทศกำลังทดสอบแนวคิดนี้อยู่ อย่างเช่น เงินหยวนดิจิทัล (Digital Yuan) ก้าวหน้าที่สุดในเรื่องนี้
มูลนิธิ The Digital Dollar Foundation ก่อตั้งขึ้น เมื่อปีที่แล้ว โดยบริษัทที่ปรึกษา Accenture, คุณ J. Christopher Giancarlo อดีตประธาน CFTC (U.S. Commodity Futures Trading Commission) และคุณ Daniel Gorfine ผู้อำนวยการ LabCFTC รวมถึงคุณ Charles Giancarlo นักลงทุน เพื่อออกแบบและสนับสนุนดอลลาร์ดิจิทัล ซึ่งเป็นโครงการภาคเอกชนที่แยกดำเนินการวิจัยสกุลเงินดิจิทัล (CBDC) นอกเหนือไปจากเฟดสหรัฐฯ แม้ว่าทั้งกลุ่มจะมีการติดต่อกันก็ตาม คุณ David Treat หนึ่งในผู้บริหารโครงการกล่าว
โครงการนำร่องทั้งห้าโครงการจะประเมินว่าดอลลาร์ดิจิทัลจะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารหรือไม่มีบัญชีธนาคารได้หรือไม่ รวมถึงบุคคลที่สามารถเข้าถึงบริการธนาคารและธุรกิจขนาดเล็กด้วย
“สิ่งที่เรากำลังประกาศก็คือ โครงการการระดมทุน โครงการกระบวนการ และกรอบการทำงานของโครงการ Digital Dollar Project จะสร้างพื้นที่ทดสอบโครงการเหล่านี้ได้อย่างไร” คุณ Treat กล่าว
คุณ Treat ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการอาวุโสที่ Accenture บอกว่า โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Accenture และได้การสนับสนุนส่วนตัวอีกด้วย แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับโครงการ
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า พวกเขาออกแบบ “ใกล้เคียงที่สุด…เท่าที่ทำได้” ให้สามารถใช้งานได้ในโลกจริง
“แน่นอนว่ากว่าจะออกมาใช้งานจริงและออกโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ มันอาจจะไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางก็ได้ แต่ข้อดีก็คือเรามีโครงสร้างพื้นฐานเดียวเดียว” คุณ Treat กล่าว “เราสามารถใช้โครงสร้าง stablecoin เพื่อชี้ได้โดยตรงว่า CBDC จะทำงานอย่างไร และแตกต่างเพียงอย่างเดียวใครเป็นคนออกมันมาใช้งาน”
คุณ Treat คาดหวังว่า ผลลัพธ์จะออกมาเร็วกว่าที่คาด
“ผลลัพธ์บางส่วนจะออกมาเร็วกว่าที่คาด ประเมินเป็นเดือน ไม่ใช่ไตรมาส แล้วจะขยายไปยังปี 2022 ต่อไป” คุณ Treat กล่าว “เมื่อโครงการนำร่องเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เราจะได้แบ่งผลลัพธ์เหล่านั้นกัน”
ที่มา : coindesk.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต