ธนาคารกลางชั้นนำ 23 แห่ง กำลังศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับข้อกำหนดและการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขา ทั้งในเรื่องของ ฟังก์ชั่นใช้งาน ความสามารถในการแปลงค่าได้ และประโยชน์ในการใช้งาน พวกเขายังหารือกรอบเวลาในการออกสกุลเงินดิจิทัลแก่ผู้บริโภคและเผยข้อกังวลในการใช้งานอีกด้วย
สกุลเงิน CDBC สกุลแรก : ที่ไหน เมื่อไหร่
OMFIF หรือ Official Monetary and Financial Institutions Forum เป็นคลังสมองอิสระของธนาคารกลาง โดยมุ่งเน้นนโยบายทางเศรษฐกิจและการเงิน การจัดการสินทรัพย์ การกำกับดูแลและควบคุมทางการเงิน ในสัปดาห์นี้ องค์กรได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (central bank digital currencies , CBDC) จำนวน 36 หน้า ในหัวข้อ “Retail CBDCs: The next payments frontier” รายงานครอบคลุม “การศึกษาเชิงลึกจาก 23 ธนาคารกลางทั้งจากประเทศพัฒนาแล้วและประเทศตลาดเกิดใหม่” OMFIF อธิบาย
การศึกษาธนาคารกลางดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน “โครงการ CBDC แรกจะเกิดขึ้นภายใน 5 ปี ในเศรษฐกิจขนาดเล็กและตอบสนองนโยบายเฉพาะที่ชี้แจ้งเอาไว้อย่างชัดเจน” OMFIF ยังกล่าวถึงอีกว่า ธนาคารกลางทั่วโลกหลายแห่งกำลังพัฒนาอย่างจริงจังและพร้อมนำ CBDC ออกมาใช้งาน ซึ่งมีแนวโน้มว่าต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รายงานระบุเอาไว้ว่า
เราคงได้เห็นธนาคารกลางออกสกุลเงินดิจิทัล-เงินตรา ภายใน 5 ปีนี้ มาแทนที่ธนบัตรและเหรียญ ทั้งเต็มรูปแบบหรือใช้งานบางส่วน อย่างแน่นอน
สำหรัเรื่องประเทศใดจะเป็นประเทศแรกจะออกสกุลเงินดิจิทัลโดยธนาคารกลางก่อน OMFIF ยืนยันว่า “เป็นไปได้ยากที่ออกมาจากธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G20 ก่อน แต่เป็นไปได้สูงจะเปิดตัวในเศรษฐกิจขนาดเล็กและมีความซับซ้อนน้อย เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์เชิงนโยบายที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน”
กลุ่มประเทศ G20 กำลังศึกษาแนวทางการออกสกุลเงิน CBDC โดยบางประเทศทำงานจริงจังกว่าอีกหลายประเทศ หลายคนเชื่อว่าจีนจะเปิดตัวเป็นประเทศแรก เนื่องประธานสถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของPBoC กล่าวในเดือนสิงหาคมว่า “ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว” อย่างไรก็ตาม Yi Gang ผู้ว่าการธนาคาร PBoC ชี้แจงในเดือนกันยายนว่ายังไม่มีกำหนดเปิดตัวใช้งาน โดยเน้นย้ำความจำเป็นศึกษาเพิ่มเติม ยิ่งไปกว่านั้น กฎหมายวิทยาการเข้ารหัสฉบันแรกเพิ่งออกมาหลังจากประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ไฟเขียว สั่งเร่งพัฒนาให้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานในประเทศจีน
23 ธนาคารกลาง กำลังพูดคุยเรื่องสกุลเงิน CBDC
OMFIF สำรวจธนาคารกลางจาก 13 ประเทศพัฒนาแล้ว และ 10 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ผู้ตอบแบบสอบถาม 69% เปิดเผยว่า “การจัดหาทางเลือกแทนที่เงินสดและเครื่องมือการชำระเงินอื่น ๆ” เป็นแรงจูงใจหลักในการศึกษาพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ประมาณ 62% เชื่อว่าสกุลเงิน CBDC สามารถปรับปรุงการชำระเงินข้ามพรมแดนให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันนั้นยุ่งยาก แพง และช้ามาก แตกต่างกับการชำระเงินรายย่อยในประเทศที่มีความรวดเร็วและประสิทธิภาพดีกว่า รายงานชี้แจงรายละเอียดเอาไว้อีกว่า
สกุลเงิน CBDC ควรพร้อมใช้งานทั้งแบบออฟไลน์และใช้งานได้ทุกแห่งที่ใช้งานเงินสด ผู้ตอบแบบสำรวจ 73% ต้องการให้สกุลเงิน CBDC ใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ มากกว่า 20% ต้องการระบบกระจายศูนย์ที่มีความยืดหยุ่น
ธนาคารกลาง 69% “ชี้ชัดความสามารถของสกุลเงิน CBDC ช่วยเสริมสร้างความน่าไว้วางใจต่อนโยบายและระบบทางการเงินซึ่งเป็นจุดแข็งหลักของพวกเขา” รายงานอธิบาย น่าสังเกตว่าพวกเขามิได้กังวลเกี่ยวกับความท้าทายจากภาคเอกชนอย่างชัดเจน
ผู้ตอบแบบสอบถามหลายรายเชื่อว่า “สกุลเงิน CBDC ต้องสามารถทำงานอย่างสมบูรณ์และแปลงค่าเป็นเงินตราได้ เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคการชำระเงินจากตั้งต้นทาง-ปลายทางและเครือข่ายชำระเงินข้ามพรมแดนได้” และควรมี “แผนกู้คืนระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำนาจศาลที่มีปัญหาไฟไหม้สูงหรือปัญหาเครือข่ายขัดข้องบ่อย”
ขณะเดียวกัน ประมาณ 29% กังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานสกุลเงิน CBDC ต่อความมั่นคงทางการเงิน เกือบ 45% บอกว่า “อาจเสี่ยงต่อการเงินและระบบการเงินของธนาคารพาณิชย์ลดลง” อย่างไรก็ตาม 83% เชื่อว่าบทบาทสำคัญหลักของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ รายงานเปิดเผยอีกว่า
ประมาณ 82% พวกเขากล่าวถึงความกังวลความมั่นคงทางการเงินที่สุดจากการใช้งานสกุลเงิน CBDC เนื่องจากธนาคารดิจิทัลทำงานเร็วกว่าแต่ก่อนมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 50% “มีความกังวลอย่างชัดเจนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในโครงสร้างตลาดและแก่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย” โดยเน้นย้ำว่า “อาจส่งผลให้มีการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์จากภาคเอกชนมากกว่าเงินสาธารณะ” ประมาณ 60% บอกว่า “ฟังก์ชั่น ‘การเป็นตัวกลาง’ ที่เอาต์ซอร์สได้ อย่างเช่น customer onboarding สำคัญยิ่งต่อการใช้งาน CBDC” OMFIF ยังตั้งข้อสังเกตจากผลการสำรวจอีกว่า พวกเขา “ไม่มองว่าสกุลเงินดิจิทัลจากเอกชนจะเกิดแรงฉุดหรือยอมรับใช้งานในสากลอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีภาคเอกชนดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” ก็ตามที
ที่มา : news.bitcoin.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต
