ตลาดคริปโตฮ่องกงเผชิญแรงเทขายหนักในกองทุน ETF ทั้ง Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $61,000
ข้อมูลจาก Farside Investors ชี้ว่า กองทุน Bitcoin แบบ Spot จากผู้จัดการกองทุนอย่าง ChinaAMC, Harvest Global, Bosera และ Hashkey เผชิญยอดขายสุทธิรวมกันกว่า $32.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พฤษภาคม)
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนเหล่านี้ ที่ทั้ง 6 กองทุน (รวมทั้งกองทุน Bitcoin และ Ether) ต่างเผชิญยอดขายสุทธิ โดยกองทุน Bitcoin แบบ Spot ของ Harvest Global ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการขายออกมาก่อน ก็เผชิญแรงเทขายเช่นกัน
สำหรับกองทุน Ether แบบ Spot มีการขายสุทธิอยู่ที่ $6.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงกว่ายอดขายสุทธิในช่วงแรกๆ เช่นกัน
หลังจากการซื้อขายเป็นเวลา 8 วัน นักลงทุนได้ทำการขายออกจากกองทุนทั้ง 6 กองทุน รวมเป็นมูลค่าประมาณ $13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังสำหรับกองทุนเหล่านี้ เมื่อเทียบกับความคึกคักเบื้องต้นที่เกิดขึ้นกับกองทุน ETF ของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า ตลาดกองทุน ETF ในฮ่องกงมีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ประมาณ $50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับตลาดกองทุน ETF ในสหรัฐฯ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ามหาศาลราว $9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวลือว่านักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเข้าถึงกองทุนเหล่านี้ผ่านโปรแกรม Stock Connect ซึ่งจะช่วยขยายฐานนักลงทุนได้อย่างมาก แต่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ติดตามข่าวคริปโตก่อนใครได้ที่ https://www.siambitcoin.com/
