บิตคอยน์การลดรางวัลครึ่งหนึ่ง (Halving) ครั้งที่ 4 เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้รางวัลจากการขุดบิตคอยน์ลดลงจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ส่งผลต่อปริมาณการผลิตบิตคอยน์ต่อวัน ซึ่งลดลงเหลือประมาณ 450 BTC จากเดิมประมาณ 900 การลดลงนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงประมาณปี 2140 ซึ่งเป็นปีที่คาดว่าจะมีการขุดบิตคอยน์หมด
เหตุใดการลดรางวัลครึ่งหนึ่งของบิตคอยน์จึงมีความสำคัญ?
การลดรางวัลครึ่งหนึ่งครั้งที่ 4 ซึ่งเกิดขึ้นที่ความสูงของบล็อกที่ 840,000 ส่งผลต่อความผันผวนของราคาบิตคอยน์ (BTC) โดยแนวโน้มคือราคาจะมีความผันผวนมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้ สาเหตุหลักมาจากปริมาณบิตคอยน์ที่ลดลง ส่งผลให้มูลค่าของบิตคอยน์ที่ยังไม่ถูกขุดนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ผลกระทบต่อนักขุด
แม้การลดรางวัลครึ่งหนึ่งจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน แต่ส่งผลกระทบต่อนักขุดบิตคอยน์ เนื่องจากพวกเขาได้รับรางวัลลดลง 50% การปรับตัวครั้งนี้อาจส่งผลให้แฮชเรท (Hash Rate) ของเครือข่ายบิตคอยน์ลดลงชั่วคราว เนื่องจากนักขุดที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและใช้พลังงานน้อยกว่า อาจหยุดการขุดเพราะไม่คุ้มทุน
หลังจากการลดรางวัลครึ่งหนึ่งเสร็จสิ้น คำพูดสุดท้ายของซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ผู้สร้างบิตคอยน์ ยังคงเป็นที่กล่าวขาน นากาโมโตะได้ออกแบบระบบลดรางวัลครึ่งหนึ่งเพื่อป้องกันการสูญเสียมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัล วิสัยทัศน์ของเขา มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขข้อบกพร่องพื้นฐานของระบบการเงินแบบเดิมที่ต้องอาศัยความเชื่อถือจากธนาคารกลาง
การถือกำเนิดของกองทุน ETF (Exchange Traded Funds) ประเภท Spot และ Future ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงบิตคอยน์ได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมการยอมรับในวงการการเงินแบบดั้งเดิม การพัฒนานี้สะท้อนถึงวิวัฒนาการของบิตคอยน์ จากแนวคิดใหม่สู่สินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมอนาคตของระบบการเงิน