อิทธิพลสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกต่อไปนี้ ประกอบด้วยความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน เงินเฟ้อ และหนี้สินของชาติที่พุ่งสูงขึ้น รายงานระบุ
- ตลาดคริปโตจะถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยมหภาคในระยะสั้น
- เหตุการณ์ Bitcoin halving ครั้งก่อน ๆ มาพร้อมกับปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ในระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซีที่ทำหน้าที่เป็นแรงหนุน
- จำนวนนักลงทุนที่ใช้ Bitcoin ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของเศรษฐกิจมหภาคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความผันผวนของตลาดลดลงในรอบนี้
รายงานวิจัยจาก Coinbase (COIN) เผยว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีแนวโน้มจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคมากกว่าปัจจัยพื้นฐานของคริปโต แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของคริปโตจะยังคงแข็งแกร่งก็ตาม
“ปัจจัยเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากภายนอกคริปโต ประกอบด้วยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน ปัญหาเงินเฟ้อ และหนี้สินของชาติที่เพิ่มสูงขึ้น” David Han นักวิเคราะห์ระบุ
ความสัมพันธ์ที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่าง Altcoin กับ Bitcoin ล่าสุด นั้นตอกย้ำถึงสิ่งนี้ “บ่งชี้ถึงบทบาทหลักของ BTC ในพื้นที่นี้ แม้ว่า BTC จะยืนหยัดในฐานะสินทรัพย์มหภาค”
แม้ว่า Bitcoin halving ในอดีตจะกระตุ้นตลาดขาขึ้นมาตลอด แต่ “การพุ่งขึ้นเป็นวัฏจักรเหล่านี้มักมาพร้อมกับตัวเร่งระบบนิเวศอื่น ๆ ที่ให้แรงหนุนเพิ่มด้วย” รายงานระบุ
คริปโตถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงมาโดยตลอด Coinbase กล่าวว่า “ความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin และการอนุมัติกองทุน spot Bitcoin ETF ได้สร้างนักลงทุนแบ่งแยกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมองว่า Bitcoin เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรเท่านั้น และอีกกลุ่มมองว่า Bitcoin เป็น “ทองคำดิจิทัล” และเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการเมืองโลก”
จำนวนนักลงทุนที่ใช้ Bitcoin ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเชิงมหภาค กำลังเติบโตขึ้น นั่นคือสาเหตุส่วนหนึ่งที่การถดถอยในรอบนี้มีขนาดลดลง
Goldman Sachs ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งวอลสตรีท เตือนนักลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไม่ควรพึ่งพาข้อมูลจากวัฏจักร Bitcoin ในอดีต และผลกระทบจาก halving มาวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันมีความแตกต่างจากอดีต
ที่มา : coindesk.com