Solana Foundation ยังคงนิ่งเฉยต่อปัญหาร้ายแรงที่จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงบนโลกออนไลน์ นั่นคือ อัตราความล้มเหลวของการทำธุรกรรม (transaction failure rate) บนเครือข่าย Solana ซึ่งเพิ่มสูงอย่างมีนัยสำคัญ โดยขณะนี้ประมาณ 3 ใน 4 ของธุรกรรมทั้งหมดกำลังประสบปัญหาที่เกิดจากความคลั่งไคล้ในเหรียญมีม (meme coin) ตัวใหม่ล่าสุด
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเชื่อว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้มีความสำคัญไม่แพ้เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX
อัตราความล้มเหลวของธุรกรรมบน Solana พุ่งทะยาน
ข้อมูลล่าสุดจาก Dune Analytics เมื่อวันที่ 4 เมษายน ระบุว่ากว่า 75% ของธุรกรรมทั่วไป (non-vote) บน Solana ล้มเหลว โดยเป็นอัตราความล้มเหลวสูงสุดที่เคยถูกบันทึกไว้
ความล้มเหลวของธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เกิดเสียงโวยวายบนโซเชียลมีเดียจากผู้ใช้งาน Solana ที่แสดงความไม่พอใจต่อธุรกรรมที่ไม่สำเร็จและประสบการณ์การใช้งานที่ย่ำแย่ลง
Altcoin Sherpa นักเทรดนิรนามผู้มีอิทธิพลได้กล่าวถึง Solana ว่ายังคงมีศักยภาพบนเส้นทางการเป็นเครือข่ายยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานรายย่อย แต่ก็ยอมรับว่าประสบการณ์การใช้งานในปัจจุบันยังไม่ดีนัก
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่แพร่หลาย Mert Mumtaz ผู้สนับสนุน Solana รายใหญ่และ CEO ของ Helius ได้โต้แย้งในโพสต์เมื่อวันที่ 4 เมษายนว่า ไม่เป็นความจริงที่ธุรกรรม 75% บน Solana ล้มเหลว โดยชี้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก “สแปมบอท”
Mumtaz ได้เปรียบเทียบการทำงานบน Solana ในลักษณะนี้คล้ายกับการทำงานแบบ web2 เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น โดยระบุว่าความล้มเหลวจำนวนมากเกิดขึ้นเมื่อ smart contract พิจารณาคำร้องขอไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลเช่น ปัญหาการอนุญาต หรือความผันผวนของตลาด มากกว่าเกิดจากข้อผิดพลาดของบล็อกเชนเอง Mumtaz ย้ำว่าความท้าทายที่แท้จริงนั้นไม่ใช่ปริมาณงาน (throughput) ของ Solana แต่อยู่ที่ปริมาณธุรกรรมสแปมที่มากมายมหาศาล
แม้ว่าความล้มเหลวของธุรกรรมอาจไม่ได้สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งาน Solana ทุกคน แต่เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเชนและนำไปสู่การหยุดให้บริการบ่อยครั้ง
เปรียบ Solana วิกฤติครั้งนี้เหมือนล่มสลายของ FTX
Ryan Rzepecki ผู้ก่อตั้ง Spectra Cities ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่แอปพลิเคชันต่างๆ บนเชนเดียวกันต้องทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น รวมถึงความสำคัญที่ ‘ความสามารถในการผสมผสาน’ (composability) มีเหนือ ‘อธิปไตย’ (sovereignty)
นอกจากนั้น Rzepecki ยังเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องสามารถใช้กิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงิน การกำกับดูแล และหน้าที่สำคัญอื่นๆ ได้โดยปราศจากการรบกวนจากการเก็งกำไรอย่างการซื้อขายเหรียญมีม เขาได้แสดงการเปรียบเทียบความท้าทายในช่วงวิกฤติของ Solana กับช่วงที่ FTX ล่มสลาย เพื่อตอกย้ำถึงความร้ายแรงของปัญหานี้
“นี่คือช่วงเวลาที่ชี้เป็นชี้ตายได้พอๆ กับการล่มสลายของ FTX ผมขอส่งความปรารถนาดีถึงนักพัฒนาทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องและกำลังแก้ไขปัญหานี้ ผมขอยืนยันว่าผมเชื่อมั่นว่าปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ แต่ตอนนี้ Solana กำลังสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานและหุ้นส่วนรายสำคัญในทุกๆ วันที่ยังมีปัญหาอยู่อย่างนี้”
ติดตามข่าวคริปโตก่อนใครได้ที่ https://www.siambitcoin.com/