Fetch.ai (FET) เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) บน Fetch.ai Blockchain มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบเศรษฐกิจแบบอัตโนมัติ (Autonomous Economic System) โดยใช้เทคโนโลยี Agent-based AI
Fetch.ai FET ทำงานอย่างไร
- การกระจายอำนาจ: Fetch.ai ทำงานบนเครือข่ายแบบ peer-to-peer ซึ่งหมายความว่าไม่มีตัวกลางควบคุมแพลตฟอร์ม สิ่งนี้ทำให้ Fetch.ai มีความปลอดภัย โปร่งใส และยืดหยุ่น
- ใช้งานง่าย: Fetch.ai นำเสนอเครื่องมือและบริการที่ใช้งานง่าย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชั่น AI ได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้าน AI
- หลากหลาย: Fetch.ai รองรับแอปพลิเคชั่น AI หลากหลายประเภท เช่น ตลาดการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) แพลตฟอร์มการจ้างงานอัจฉริยะ และระบบจัดการพลังงาน
แพลตฟอร์ม Fetch.ai ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน:
- Fetch.ai Network: เครือข่าย Blockchain ที่รองรับการทำงานของ Agent
- Fetch.ai Agents: โปรแกรม AI ที่ทำงานบนเครือข่าย Fetch.ai
- Fetch.ai Cosmos: ชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการสร้าง Agent บนแพลตฟอร์ม Fetch.ai
Fetch.ai FET มีประโยชน์อย่างไร
Fetch.ai FET นำเสนอโซลูชั่น AI ที่หลากหลายสำหรับภาคธุรกิจต่างๆ ตัวอย่างการใช้งาน:
- การจัดการด้านอุปทาน: ติดตามสินค้า ตรวจสอบ provenance และจัดการสินค้าคงคลัง
- ด้านการเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกง วิเคราะห์ความเสี่ยง และจัดการสินเชื่อ
- ด้านพลังงาน: เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และซื้อขายพลังงานแบบ peer-to-peer
- ด้านการผลิต: เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และจัดการหุ่นยนต์
เหรียญ FET คืออะไร?
FET เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ที่ใช้ในแพลตฟอร์ม Fetch.ai FET มีฟังก์ชั่นหลักดังนี้:
- การชำระค่าธรรมเนียม: FET ใช้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Fetch.ai
- การเดิมพัน: ผู้ใช้สามารถ stake FET เพื่อมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และรับรางวัล
- การกำกับดูแล: ผู้ถือ FET มีสิทธิ์ในการโหวตเกี่ยวกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม Fetch.ai
ทำไมราคา FET ถึงขึ้นแรง
1. การเปิดตัว Fetch Compute: ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Agent บนเครือข่าย Fetch.ai ได้ง่ายขึ้น
2. ความร่วมมือ: Fetch.ai ประกาศความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น Bosch, Telefonica และ University of Cambridge
3. เทรนด์ AI: ความสนใจในเทคโนโลยี AI กำลังเพิ่มสูงขึ้น
4. ปัจจัยอื่นๆ: สภาพคล่องตลาด การเก็งกำไร
Fetch.ai FET: Economic Token
FET เป็น economic token บนแพลตฟอร์ม Fetch.ai ทำหน้าที่หลัก 3 ประการ:
- สื่อกลางการแลกเปลี่ยน: FET ใช้สำหรับการชำระค่าธรรมเนียม ซื้อขายบริการ และเข้าถึงข้อมูลบนแพลตฟอร์ม Fetch.ai
- แรงจูงใจ: ผู้ใช้สามารถ earn FET ผ่านการ staking การันตีความปลอดภัยของเครือข่าย และการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ
- การกำกับดูแล: ผู้ถือ FET มีสิทธิ์ในการโหวต ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแพลตฟอร์ม Fetch.ai
Tokenomics ของ FET:
- อุปทานสูงสุด: 1.15 พันล้านเหรียญ
- การกระจาย:
- 20%: Fetch.ai Foundation
- 20%: ทีมผู้ก่อตั้ง
- 17.6%: นักลงทุนรอบ seed และ private
- 15%: Mining rewards
- 10%: ที่ปรึกษา
- 17.4%: การขายในอนาคต
- การปลดล็อก: FET มีกำหนดการปลดล็อกตามแผน
บทบาทของ FET ในระบบเศรษฐกิจแบบอัตโนมัติ:
- การชำระค่าบริการ: FET ใช้สำหรับการชำระค่าบริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Fetch.ai เช่น การเข้าถึงข้อมูล การใช้ Agent
- แรงจูงใจสำหรับ Agent: Agent ได้รับรางวัลเป็น FET สำหรับการทำงานที่เสร็จสิ้น
- การ staking: ผู้ใช้สามารถ stake FET เพื่อรับรางวัล และมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
- การกำกับดูแล: ผู้ถือ FET มีสิทธิ์ในการโหวต เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และทิศทางของแพลตฟอร์ม Fetch.ai
สรุป:
Fetch.ai FET เป็นแพลตฟอร์ม AI บน Blockchain ที่น่าจับตามอง การเปิดตัว Fetch Compute ความร่วมมือ และเทรนด์ AI ล้วนเป็นปัจจัยที่หนุนราคา FET
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล และประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวล่าสุดได้ที่ www.siambitcoin.com