Ethereum กำลังต่อสู้กับแนวต้านที่ $3,000 หลังจากการพุ่งขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 29.7% นับตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของ ETH มาจากปริมาณอุปทานที่ลดลง ซึ่งเกิดจากความต้องการที่เติบโตสำหรับการ stake บนแอปพลิเคชันการเงินไร้ตัวกลาง (DeFi) และกลไกการ burn ของระบบ proof-of-stake ในขณะที่การพุ่งทยานสูระดับ $3,000 ของอีเธอร์นั้นน่าประทับใจ แต่คำถามที่แท้จริงคือ ETH จะมีแรงมากพอที่จะกลับคืนระดับ $3,300 ซึ่งเคยทำได้ในเดือนมีนาคม 2022 หรือไม่?
อะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นต่อ Ethereum?
- ปริมาณอุปทานที่ลดลง: ความต้องการในการ staking ETH การเติบโตในภาค DeFi (การเงินแบบไร้ตัวกลาง) และกลไกการเผาเหรียญในเครือข่ายได้ส่งผลให้ปริมาณอุปทานโดยรวมลดลง
- การอนุมัติ ETF ที่เป็นไปได้: การตัดสินใจในเชิงบวกสำหรับกองทุนรวมอีเธอเรียม (ETF) ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในเดือนพฤษภาคม อาจทำให้ราคา ETH พุ่งขึ้นไปอีก
- ตลาดฟิวเจอร์ที่แข็งแกร่ง: สัญญาฟิวเจอร์ Ether ที่มีระยะเวลา 1 เดือนแสดงให้เห็นถึงความเป็นขาขึ้นจากนักเทรดมืออาชีพ
มุมมองของนักวิเคราะห์
Ryan Sean Adams นักลงทุนคริปโตเชื่อว่า “ช่วงความต้องการ” ของ Ethereum ยังมาไม่ถึง การเปิดตัว Spot Ethereum ETF อาจส่งเสริมราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ไม่มี “อุปทานใหม่” เพิ่มขึ้น
ซึ่งข้อมูลอุปทานแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำนวนเหรียญทั้งหมดที่หมุนเวียนลดลง 18,960 ETH ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ ultrasound.money
หากดูจากแนวโน้ม 7 วัน มีแนวโน้มการโอน Ether ออกจาก Exchanges เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แม้ว่าแนวโน้มนี้อาจมีความผันผวนได้ง่าย ซึ่งต่างจากที่คาดการณ์ไว้ ราคาของ Ether ยังคงทรงตัวที่ประมาณ $2,300 ใน 30 วัน กล่าวโดยสรุป การ staking และความต้องการ ETH ในแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่ออุปทานที่ขาย
ในเชิงเทคนิค การได้รับอนุมัติกองทุน ETF บน Ethereum อาจส่งผลให้ราคาของ Ether พุ่งสูงขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีโอกาสได้รับการอนุมัติราวๆ 50% – 80% อย่างไรก็ตาม หากโมเมนตัมขาขึ้นของ Bitcoin ลดลง โอกาสที่ Ether จะสามารถยืนเหนือระดับ $3,300 ก็จะลดลงเช่นกัน ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบันอาจจะไม่เพียงพอที่จะดันราคาได้
ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา
- ความต้องการ Airdrop: ความสนใจเกี่ยวกับการเปิดตัวโทเค็น Ethereum ที่จะเกิดขึ้นอาจจะกระตุ้นความต้องการ ในทางกลับกัน ความเชื่อมั่นในเชิงลบ เช่นข้อพิพาท airdrop ของ Starknet (STRK) ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ สามารถทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาได้
- ความต้องการใช้งานเครือข่ายโดยรวม: การใช้งานเครือข่าย Ethereum โดยทั่วไปสำหรับการทำธุรกรรมและแอปพลิเคชันต่างๆ จะมีผลต่อราคา
สรุป
กลุ่มคนที่มองว่าราคา Ethereum จะปรับตัวสูงขึ้น (bulls) กำลังเผชิญกับการทดสอบที่สำคัญที่ระดับ $3,000 ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและ ETF ที่เป็นไปได้ ความเป็นไปได้ที่ ETH จะกลับมายืนเหนือระดับ $3,300 นั้นยังคงมีอยู่
ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่
https://www.siambitcoin.com/
