แม้ว่าบริษัท MicroStrategy จะได้กำไรมหาศาลจากการลงทุนใน Bitcoin แต่ Michael Saylor ประธานบริหารของบริษัท กล่าวกับ Bloomberg TV ว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะขายคริปโตดังกล่าว
- Michael Saylor ผู้สนับสนุนบิตคอยน์อย่างแข็งขัน ยืนยันว่า บริษัทของเขาจะไม่ขาย Bitcoin ที่ถือครองอยู่ในเร็ว ๆ นี้
- “ไม่มีเหตุผลที่จะขายผู้ชนะและซื้อผู้แพ้” เขาให้สัมภาษณ์
- Bitcoin แข่งขันกับสินทรัพย์ขนาดใหญ่กว่าอย่าง ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และดัชนี S&P 500 แม้ว่าตลาดเหล่านั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า แต่ Bitcoin เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า
Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy’ (MSTR) ยืนยันผ่านการสัมภาษณ์กับ Bloomberg TV เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาไม่มีแผนที่จะขาย Bitcoin (BTC) ที่บริษัทถือครองในเร็วๆ นี้ หรืออาจจะไม่ขายเลย
“กองทุน spot ETF เปิดประตูให้เงินทุนสถาบันไหลเข้าสู่ระบบนิเวศ Bitcoin” Saylor กล่าว “[กองทุน ETF] ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของเงินทุน และทุกวันมีเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ไหลออกจากระบบอนาล็อกดั้งเดิมสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแล้ว”
บริษัท MicroStrategy ของ Michael Saylor ถือครอง Bitcoin จำนวน190,000 BTC ณ สิ้นเดือนมกราคม ซื้อมาในราคาเฉลี่ย $31,224 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยอาจกำลังคิดถึงวิธีการถอนตัวออกจากตลาด แต่ไม่ใช่ Saylor
สำหรับเขาแล้ว “Bitcoin” นั้นคือ “กลยุทธ์การถอนตัว (exit strategy)” เขาบอกกับทาง Bloomberg
มูลค่าของ Bitcoin ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังแข่งขันกับสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งดัชนี S&P โดยสินทรัพย์เหล่านี้ทั้งหมดมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงกว่า Bitcoin หลายเท่า Saylor กล่าว และ Bitcoin เหนือกว่าสินทรัพย์ทั้งหมดเหล่านี้
“เราเชื่อว่าเงินทุนจะยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เหล่านั้นไปสู่ Bitcoin เนื่องจาก Bitcoin เหนือกว่าสินทรัพย์เหล่านั้นในแง่เทคนิค และเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ไม่มีเหตุผลที่จะขายผู้ชนะและซื้อผู้แพ้” เขากล่าว
MicroStrategy เริ่มต้นซื้อ Bitcoin ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 และยังคงซื้อเพิ่มเข้าไปในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง บริษัทด้านซอฟต์แวร์นี้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 เมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมทั้งประกาศว่าจะรีแบรนด์เป็น “บริษัทพัฒนา Bitcoin” ถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในคริปโตนี้อีกครั้ง
ราคาหุ้น MSTR เพิ่มขึ้น 11.8% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD)
ที่มา : coindesk.com