ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของ $4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 รวมการสูญเสีย $40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการล่มสลายของ Terra, Celsius และ FTX
- ผู้ใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีสูญเสียเกือบ $2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากสแกม (scam), ดึงพรม (rug pull) และแฮ็ก (hack) ในปี 2023 หรือประมาณครึ่งหนึ่งของปีก่อน
- ตัวเลขที่ลดลงเป็นผลมาจากการใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง แต่วงการคริปโตยังคงเสี่ยงด้านความปลอดภัยอยู่
ผู้ใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีสูญเสียเกือบ $2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากสแกม (scam), ดึงพรม (rug pull) และแฮ็ก (hack) ในปี 2023 หรือประมาณครึ่งหนึ่งของปีก่อน แต่เป็นสัญญาณว่าวงการคริปโตยังคงเสี่ยงด้านความปลอดภัย นักวิจัยจาก De.Fi แอปด้านความปลอดภัย เผยในรายงานประจำปีเมื่อวันพุธ
ตัวเลขที่ลดลงเป็นผลมาจากการใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง การรับรู้ภายในชุมชนที่เพิ่มขึ้น และกิจกรรมโดยรวมที่ลดลงในตลาดรายใหญ่ เมื่อเงิน $40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสูญเสียไปจากการล่มสลายของ Terraform Labs, Celsius และ FTX
การลดลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับตลาดหมีที่โทเคนหลักบางตัวร่วงหนักถึง 85% จากจุดสูงสุดจากปี 2021 ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากสภาวะเริ่มเป็นขาขึ้น นอกจากนี้อัตราการฟื้นตัวของเงินทุนดีขึ้นมากประมาณ 10% เพิ่มขึ้นจากเพียง 2% ในปี 2022 De.Fi เผย
การสูญเสียแยกตามบล็อกเชนต่าง ๆ
Ethereum เป็นบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของผู้ใช้งานและมูลค่าที่ล็อคเอาไว้ประสบความสูญเสียสูงสุด ประมาณ $1.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากประมาณ 170 เหตุการณ์ ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงการดึงดูดผู้ไม่ประสงค์ดี เนื่องจากระบบนิเวศใช้งานอย่างกว้างขวางและหลายโครงการมีชื่อเสียงสูง การหาผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดคือการโจมีช่องโหว่ต่อแพลตฟอร์มข้ามเชน Multichain ในเดือนกรกฎาคม มูลค่า $230 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
BNB Chain ก็ตกเป็นเป้าเช่นกัน สูญเสียมูลค่า $110.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 213 เหตุการณ์ เครือข่ายเกิดขึ้นใหม่ zkSync Era สูญเสีย $5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 2 เหตุการณ์ และ Solana สูญเสีย $1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการโจมตีครั้งเดียว
การสูญเสียของแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ เช่น ตลาดซื้อขาย (Exchange) และแพลตฟอร์มซื้อขายต่าง ๆ ประมาณ $256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเจ็ดเหตุการณ์ การโจมตี Poloniex ครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
วิธีการยอดนิยม
การโจมตีจากการควบคุมการเข้าถึงเป็นวิธีการสร้างความเสียหายได้มากที่สุด ผู้โจมตีใช้จุดอ่อนในการจัดการสิทธิ์และสิทธิ์การเข้าถึงภายในสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts) หรือแพลตฟอร์ม การหาประโยชน์ดังกล่าวมักเข้าถึงกองทุนหรือฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญโดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งผลให้เกิดการสูญเสียมากกว่า $852 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 29 กรณี
การโจมตีแบบ Flash-loan เป็นวิธีการสร้างความเสียหายมากเป็นอันดับสอง ส่งผลให้สูญเสีย $275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า 36 กรณี การโจมตีเหล่านี้อาศัยฟีเจอร์ยืม (loan feature) ใน DeFi ที่ไม่มีหลักประกัน ทำให้ผู้โจมตียืมคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมากโดยไม่ต้องมีเงินทุนล่วงหน้า ผู้โจมตีใช้เงินที่ยืมมาเหล่านั้นเพื่อควบคุมราคาในตลาดและฉกฉวยผลประโยชน์จากช่องโหว่ใน DeFi
Exit scams คิดเป็น $136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กว่า 263 กรณี นักพัฒนาโกงเพียงแค่ระบบสภาพคล่องทั้งหมดออกจากโทเคนที่พวกเขาออกมา หรือลบสถานะออนไลน์ของตนออกหลังจากระดมเงินจากผู้เข้าร่วมตลาดที่ไม่สงสัย
ที่มา : coindesk.com
