โดยสรุป
- ในจดหมายล่าสุดแชร์กับทางสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ ซีอีโอ Tether ได้อธิบายวิธีการของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เหมาะสมที่จะใช้ USDT stablecoin ของบริษัท รวมถึงการนำหน่วยสืบราชการลับและ FBI เข้าสู่แพลตฟอร์มของบริษัท
- Tether อายัด wallet ในลิสต์คว่ำบาตรของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอ้างว่าได้อายัดเงินมูลค่า 435 ล้านเหรียญ USDT แล้วตอนนี้
Tether บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง USDT stablecoin ได้เผยแพร่จดหมายที่บริษัทส่งไปยังคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านการธนาคาร การเคหะ และกิจการเมือง (Senate Committee on Banking, Housing, and Urban Affairs and the U.S. House Financial Services Committee) และคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฏรด้านการบริการทางการเงิน (House Financial Services Committee) โดยสรุปถึง “ความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยและความสัมพันธ์ในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับการบังคับใช้กฎหมาย”
ในจุดหมายล่าสุด Paolo Ardoino ซีอีโอ Tether คนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ได้เน้นย้ำถึงการตัดสินใจล่าสุดของ Tether ที่จะปิดการใช้งานโทเคนของ Tether ใน wallet ทั้งหมดที่อยู่ในลิสต์การคว่ำบาตรของสำนักงานทรัพย์สินและการควบคุมต่างประเทศ (OFAC) โดย Tether อ้างว่าได้ช่วยกระทรวงยุติธรรม (DoJ), หน่วยสืบราชการลับ และสำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐฯ อายัด wallet จำนวน 326 รายการ มูลค่า 455 ล้านเหรียญ USDT จนถึงตอนนี้ แม้ wallet ที่ถูกแช่แข็งล่าสุดดูเหมือนจะมีโทเคนน้อยกว่าจำนวนนั้นมาก
Ardoino ยังประกาศด้วยว่า Tether “เพิ่งนำหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ เข้าสู่แพลตฟอร์มของเราและกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการเช่นเดียวกันสำหรับ FBI”
จดหมายดังกล่าวส่งถึงวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ที่รู้จักกันดีว่าเป็นวุฒิสมาชิกที่เป็นมิตรต่อคริปโต และยังส่งไปยังประธานและสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการดังกล่าวข้างต้นอีกด้วย
ที่มา : theblock.co