- Bitcoin จะแตะ $40,000 หรือไม่ก็ $45,000 ภายในสิ้นปีนี้ Markus Thielen จาก DeFi Research คาดการณ์
- Thielen อธิบายว่า การไหลเข้าตลาด Options และแนวโน้ม dovish Fed จะขับเคลื่อนให้คริปโตเคอร์เรนซีราคาสูงขึ้นในช่วงปลายปี
โมเมนตัมของ Bitcoin (BTC) ขาขึ้น มีแนวโน้มที่จะยังคงเหมือนเดิมในช่วงสิ้นปี โดยราคาจะขึ้นแตะ $40,000 ตามที่ Markus Thielen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Matrixport ผู้ให้บริการคริปโตและผู้ก่อตั้ง DeFi Research พอร์ทัลวิเคราะห์คริปโต
Bitcoin จะแตะ $40,000 หรือไม่ก็ $45,000 ภายในสิ้นปีนี้
Thielen กล่าวกับทาง CoinDesk โดยอ้างถึงโพซิชั่นตลาด Options และความคาดหวังต่อ Fed จะแข็งกร้าวน้อยลง (dovish) จะเป็นตัวเร่งให้ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คริปโตเคอร์เรนซีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในปีนี้ โดยราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวขาขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระตุ้นความต้องการ call options หรือ derivatives ทำให้ผู้ซื้อมีสิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ในภายหลัง
Thielen บอกว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นที่เรียกว่า การเดิมพันขาขึ้น (bullish bets) ทำให้ผู้เข้าร่วมตลาดบางราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องมักจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้ซื้อที่เป็นลูกค้า ต้องเผชิญกับการพลิกกลับของคริปโตเคอร์เรนซีอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะซื้อ BTC และเฮดจ์ด้วยตนเองเมื่อราคาสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มแรงกดดันเชิงบวกต่อคริปโตเคอร์เรนซี
“เรามี 2 Options ขนาดใหญ่ที่จะหมดอายุในวันที่ 24 พฤศจิกายน และ 29 ธันวาคม โดยมีสัญญาคงค้าง (open interest) $3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ $5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ มี 85% เป็น call opitions มากกว่า put options โดย 40,000 มีนัยสำคัญมากที่สุด ยิ่งเข้าใกล้ $40,000 มากเท่าไร ผู้คนก็ยิ่งต้องซื้อ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น” Thielen กล่าว
“จะมีความสนใจในวงกว้างผลักดันให้ราคาแตะระดับ $40,000 มีโอกาสสูงมากที่เราจะแตะระดับนั้น” Thielen เสริม ล่าสุด Bitcoin อยู่ที่ราคา $37,445
อีกปัจจัยที่สนับสนุนขาขึ้นคือ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ถดถอยลงและความคาดหวังที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยหรือผ่อนคลายสภาพคล่อง
Fed คงอัตราดอกเบี้ย 525 basis points ในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมา ถึงเดือนพฤษภาคม 2023 เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่ลุกลาม การปรับสภาพคล่องอย่างรวดเร็วของ Fed ทำให้นักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหมดไป และมีส่วนรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของคริปโตเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยสูงถึง 9.1% ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อวันอังคารตัวเลข U.S. CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2% ในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนตุลาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนกันยายน
ข้อมูลจาก UBS อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงนั่นหมายความว่า Fed สามารถลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงครึ่งหนึ่งเป็น 2.75% จากช่วงปัจจุบันที่อยู่ในช่วง 5.25% ถึง 5.5% จาก Fed funds futures นั้น ตลาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 90 basis points ภายในสิ้นปี 2024
“CPI ทั่วไปของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.2% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.25% ส่วนต่างอยู่ที่ 2% หากจำลองอัตราเงินเฟ้อของเราในปัจจุบัน สเปรดจะอยู่ที่ 3% ดังนั้นเราจึงคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 200 basis points ในปีหน้า นี่คือมองโลกในแง่ดี”
Thielen คาดว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งวัดโดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของ Fed ในปี 2024
สุดท้าย การมองโลกในแง่ดีต่อ spot ETF ก็สามารถหนุนให้ราคาเพิ่มขึ้นต่อไปเช่นกัน จากการวิเคราะห์ของ Bloomberg มีโอกาส 90% ที่ ก.ล.ต.สหรัฐฯ จะอนุมัติหนึ่ง spot ETF หรือมากกว่านั้นก่อนวันที่ 10 มกราคม
ที่มา : coindesk.com