โดยสรุป
- สตาร์ทอัพ Blockticity ใช้บล็อกเชน Avalanche ออก NFT เพื่อรับรองความถูกต้องของเห็ดวิเศษ กัญชง และพืชกระท่อม
- แผนการดังกล่าวขยายการตรวจสอบผลิตภัณฑ์กัญชาโดยใช้ NFT เช่นเดียวกัน
ใบรับรองนับพันรายการที่พิสูจน์ความถูกต้องของเห็ดวิเศษ กัญชง และพืชกระท่อม มูลค่าประมาณ $275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้สร้างขึ้นเป็น NFT ตามที่แถลงการณ์ออกมาล่าสุด
การใช้บล็อกเชน Avalanche นั้น Blockticity บริษัทสตาร์ทด้านการรับรองสินค้า กล่าว่าได้ minted NFT ที่ออกแบบมาเพื่อรับรองความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ที่ทดสอบโดย ACS Laboratory ห้องปฏิบัติการด้านกัญชงและกัญชีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ
พืชกระท่อมถือเป็นสมุนไพรทางยาที่หลายคนอ้างว่ามีคุณสมบัติคล้ายฝิ่น
ตอนนี้ ACS Laboratory และ Blockticity ได้ออก NFT ทั้งหมดเกือบ 37,000 รายการ โดยแต่ละโทเคนจะทำหน้าที่เป็นใบรับรองการวิเคราะห์หรือ COA สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แผนงานจะสร้างอีก 120,000 COA สำหรับผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นส่วนใหญ่
กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับ ACS Laboratory ในการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนแล้วจึงออก COA จากนั้น Blockticity ได้สร้าง QR code ของ COA ซึ่งออกเป็น NFT โดยใช้ C-Chain ของ Avalanche นั่นเอง
แนวคิดก็คือ COA NFT ของ Blockticity จะทำหน้าที่ทั้งการติดตามและตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
กลยุทธ์ของ Blockticity ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าการฉ้อโกงแพร่หลายใน “วงการรับรอง” และปัญหานี้ทวีรุนแรงขึ้นเนื่องจากวิธีการติดตามสินค้าในห่วงโซ่อุปทานต่าง ๆ นั้นไร้ประสิทธิภาพ “พวกฉ้อโกงสามารถใช้ประโยชน์จาก COA ของห้องปฏิบัติการด้วยการดัดแปลง QR code การปรับเปลี่ยนภาพ และการเปลี่ยนแปลงข้อมูล” บริษัทกล่าว “โซลูชั่นของ Blockticity มุ่งหวังให้ COA มีหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และตรวจสอบได้โดยยึดโยงกับ Avalanche”
ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
เป้าหมายของโครงการกับ ACS Laboratory ขยายไปสู่ “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เครื่องแต่งกาย เกษตรกรรม อาหาร และวงการอื่น ๆ” Blockticity เสริมว่าโครงการนี้คาดว่าจะเปิดตัวได้ในปลายปีนี้
“เป้าหมายหลักของ Blockticity คือ การใช้ประโยชน์ web3 เพื่อติดตามผลิตภัณฑ์ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก” Mike Coner ซีอีโอกล่าว “เราใช้ Avalanche ช่วยให้สามารถรับรองความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ผ่านออนไลน์ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องเมตะดาต้าของลูกค้าและนำเสนอโซลูชั่นที่ปรับสเกลได้เพื่อเศรษฐกิจโลก”
ที่มา : theblock.co