Gracy Chen กรรมการผู้จัดการ Bitget กล่าวว่า หากผู้ใช้งานไม่ได้ทำกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน พวเขาก็ควรสบายใจกับกระบวนการ KYC
ตลาดซื้อขายคริปโต Bitget เติบโตอย่างมาก แม้จะมีความท้าทายจากตลาดหมีก็ตาม ในปี 2023 ตลาดฯ ประกาศเปิดตัวสองกองทุนมูลค่า $100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งในกองทุนทุ่มเทให้กับโครงการคริปโตในเอเชีย อีกกองทุนสร้างผลกระทบระยะยาวของบริษัทในแวดวงคริปโต
ที่งานประชุม Bitget EmpowerX Summit ในสิงคโปร์ Zhiyuan Sun จาก Cointelegraph ได้พูดคุยกับ Gracy Chen กรรมการผู้จัดการของ Bitget เกี่ยวกับการเติบโตของ Bitget ท่ามกลางตลาดหมี โดยหยุดขยายตลาดในฮ่องกงและสหรัฐฯ และทำไมพวกเขาถึงเชื่อว่าการใช้โปรโตคอล Know Your Customer (KYC) มีความสำคัญต่อตลาดซื้อขายคริปโต
Chen เผยว่า บริษัทเติบโต 10 เท่าจากเดิมในเวลาเพียงแค่สองปี “สำหรับพนักงานบริษัทของเรามีประมาณ 150 คนเมื่อสองปีก่อน และตอนนี้มีถึง 1,500 คนแล้ว” ผู้บริหารฯ ยังเน้นย้ำว่าเป็นผลมาจากความพยายามของพวกเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์นั่นเอง
เราคิดว่ามันเหมือนกับการวิ่งมาราธอน ดังนั้นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ และหากคุณจับตาดูทีมของเรา มันเป็นทีมที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์จากการดำเนินการอย่างมาก
ผู้บริหาร Bitget ยังกล่าวถึงโครงการของพวกเขามากมาย ตั้งแต่การสร้างแบรนด์และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการเป็นพันธมิตรกับซูเปอร์สตาร์ฟุตบอลอย่าง Lionel Messi ซึ่งเป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำให้เติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ในแง่ของเคล็ดลับ ฉันคิดว่าเป็นเพราะสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เรากำลังเติบโต” ขณะเดียวกัน การเติบโตทำให้ “มีการเงินที่ดี” ที่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น
เมื่อถามถึงเกี่ยวกับตลาดซื้อขายคริปโตในสองตลาดหลักได้แก่ สหรัฐฯ และฮ่องกง Chen บอกว่าความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ กำลังขัดขวางไม่ให้ Bitget กลับมาในเร็ว ๆ นี้ “เราต้องการรอดูว่ามันจะพัฒนาไปอย่างไร จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าเราต้องการให้บริการลูกค้าในสหรัฐฯ หรือไม่ นี่คือสิ่งที่เราพัฒนาอยู่เสมอ แต่ฉันยังไม่เห็นว่าจะให้บริการในสหรัฐฯ ในระยะสั้นนี้”
เมื่อพูดถึงฮ่องกง Chen บอกว่า พวกเขาได้พูดคุยเจรจากับรัฐบาลฮ่องกงแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการขอใบอนุญาตจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ
Chen ยังพูดถึงเหตุผลที่ตลาดฯ ต้องใช้ข้อกำหนด KYC บังคับกับผู้ใช้งานทุกคนในวันที่ 1 กันยายน ผู้ใช้งานหลายคนบ่นถึงข้อกำหนดใหม่นี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเชื่อว่าการใช้ KYC เป็นวิธีการที่ดีในการคัดกรองผู้ใช้งานที่ “ทำผิดกฎหมาย”
ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าผู้ใช้งานที่มีการเงินที่ดี หากพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน พวกเขาควรจะสบายใจกับกระบวนการ KYC
นอกจากนี้ ผู้บริหารฯ เชื่อว่า กระบวนการ KYC จะกลายเป็นเทรนด์ในตลาดซื้อขายคริปโตที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา : cointelegraph.com