จากการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับ LPs กว่า 40 ครั้ง เวลานับไม่ถ้วนที่ใช้ในฟอรัมสภาพคล่องส่วนกลาง (ขอชื่นชม DeFi Dojo) และประสบการณ์ของเรากับ LPing บน V3 Aperture นำเสนอคุณสมบัติหลัก 4 ประการสำหรับรุ่นเบต้าส่วนตัวที่กำลังจะมีขึ้น
** หากคุณยังไม่ได้สมัครใช้งานเบต้าส่วนตัวที่มีแรงจูงใจ โปรดสมัครที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งจูงใจ/แอร์ดรอป โปรดดู previous Medium article **
● ปรับสมดุลอัตโนมัติหรือ Automated Rebalance (Move Range)
● การปิดตำแหน่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือ Prescheduled Position Closure (Range Orders)
● การทบต้นอัตโนมัติ (Auto Compounding)
● คำสั่งจำกัดรายได้ (Revenue Earning Limit Orders)
วันนี้เราจะพูดถึง UI และแสดงวิธีใช้ทั้ง 4 รูปแบบ!
1. ปรับสมดุลอัตโนมัติหรือ Automated Rebalance (Move Range)
ระดับสูง: คุณสามารถตั้งค่าทริกเกอร์ (Trigger)การปรับสมดุลตามราคา อัตราส่วนพูล และเวลา คุณยังสามารถเลือกบัฟเฟอร์เวลาสำหรับทริกเกอร์ ตามราคาหรืออัตราส่วน
มูลค่าเพิ่ม (Value Add): ในการปรับสมดุล คุณต้องดึงสภาพคล่องด้วยตนเอง คำนวณจำนวน swap ที่ต้องการ สลับจำนวนที่ต้องการ จากนั้นเพิ่มสภาพคล่องกลับไปที่ตำแหน่งใหม่ Aperture รวมทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนเดียวและทำการคำนวณให้คุณเพื่อไม่ให้มีโทเค็นเหลือ
ตัวอย่าง: หาก ETH ขึ้นไปถึง $2,300 ให้ปรับสมดุลสถานะ ETH-USDC ตำแหน่ง (Position) กลับไปเป็น 50-50
ขั้นตอน:
1. เชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณและสร้างตำแหน่ง (Position) บน Aperture หรือเลือกตำแหน่ง (NFT) ที่คุณต้องการ ตั้งค่าการปรับสมดุลใหม่
2. ตั้งค่าพารามิเตอร์การปรับสมดุลสำหรับตำแหน่ง (Position) ของคุณ คุณสามารถสลับไปมาระหว่างทริกเกอร์ที่แตกต่างกัน 3 แบบ ได้แก่ ราคา(price) อัตราส่วน(ratio) หรือเวลา( time) สำหรับราคาและอัตราส่วน คุณยังสามารถรวมบัฟเฟอร์เวลาได้ด้วย
ราคา (Price): ปรับสมดุลใหม่เมื่อสินทรัพย์อยู่เหนือ/ต่ำกว่าจุดราคา
อัตราส่วน ( Ratio): ปรับสมดุลใหม่เมื่อถึงอัตราส่วน
เวลา (Time): ปรับสมดุลในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
Time Buffer:
เมื่อคุณเลือกการตั้งค่าทริกเกอร์ (Trigger) แล้ว คุณสามารถเลือก ” Time buffer ” หากคุณเลือกทริกเกอร์ตามราคา(price) หรืออัตราส่วน(ratio) เมื่อทำเครื่องหมายที่ช่อง คุณจะมั่นใจได้ว่าทริกเกอร์จะทำงานเมื่อราคาหรืออัตราถึงจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ตำแหน่ง(Position) สามารถ ” breathe ” หรือเปลี่ยนกลับเป็นค่าเฉลี่ย หากเงื่อนไขราคา (price) /อัตราส่วน (ratio) เป็นเพียงชั่วคราวหรือจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการกำหนดราคา
3. เมื่อทำการปรับสมดุลแล้ว ให้เลือกอัตราส่วนและช่วงของสินทรัพย์ที่ต้องการสำหรับสถานะสภาพคล่องใหม่ที่คุณต้องการ
● สำหรับการเปลี่ยนแปลงราคา คุณสามารถสลับระหว่างสินทรัพย์ใดก็ได้ (คล้ายกับหน้าบ้าน (front-end) Uniswap)
● Aperture จะแสดงสภาพคล่องที่คาดการณ์ไว้หลังจากปรับสมดุลในส่วน “ตำแหน่งสภาพคล่องที่คาดการณ์ไว้” (Projected Liquidity Position)
● ทริกเกอร์ (Trigger)จะหมดอายุโดยอัตโนมัติหลังจาก 90 วัน
● ตั้งค่าแก๊สสูงสุดโดยเลือกปริมาณน้ำมันสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของตำแหน่งของคุณหรือในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หมายเหตุ: หากคุณป้อน USD เราจะแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนตำแหน่ง ซึ่งเป็นทริกเกอร์สุดท้ายสำหรับการเรียกใช้
● หากคุณเลือก “Reinvest Fees” จะเป็นการรวมค่าธรรมเนียม (revenue) ที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์ใด ๆ เข้าไว้ในสถานะสภาพคล่องใหม่ที่คาดการณ์ไว้
4. คลิก “ตั้งค่าการปรับสมดุลอัตโนมัติ” (Automated Rebalance)
Aperture จะขอให้คุณลงนามในข้อความออฟไลน์เพื่อให้สัญญาอัจฉริยะของเราปรับสมดุลตำแหน่งของคุณตามพารามิเตอร์ที่คุณเลือก
2. การปิดตำแหน่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือ Prescheduled Position Closure (Range Orders)
ระดับสูง: คุณสามารถตั้งค่าทริกเกอร์(Trigger)การปิดตำแหน่งตามราคา อัตราส่วนพูล และเวลา คุณยังสามารถเลือกบัฟเฟอร์เวลา (Time Buffer) สำหรับทริกเกอร์ตามราคาหรืออัตราส่วน
มูลค่าเพิ่ม (Value Add): Aperture ช่วยให้คุณสามารถปิดการขายตามราคาหรืออัตราส่วนโดยไม่ต้องติดตามราคาตลาดอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการดำเนินการคำสั่งช่วงโดยใช้ตำแหน่ง (Positions) UniV3 LP!
ตัวอย่าง: หากตำแหน่ง ETH-USDC ของคุณกลายเป็น ETH 100% ให้ปิดตำแหน่ง ETH-USDC แล้วคืน ETH ทั้งหมดไปที่กระเป๋าเงินของคุณ
1. เลือกตำแหน่ง NFT / ที่ใช้งานอยู่ที่คุณต้องการสร้างการปิดล่วงหน้าตามกำหนดการ คุณสามารถหา Prescheduled Close ได้จากเครื่องมือขั้นสูง
2. เช่นเดียวกับการปรับสมดุลอัตโนมัติ (Automated Rebalance) ตอนนี้คุณสามารถเลือกการตั้งค่าทริกเกอร์ตามราคา อัตราส่วน หรือเวลา
คุณจะเลือกเพดานค่าธรรมเนียมแก๊สตามเปอร์เซ็นต์ของตำแหน่งหรือจำนวนเงิน (ซึ่งเราจะแปลงกลับเป็นเปอร์เซ็นต์ของตำแหน่ง)
3. การทบต้นอัตโนมัติ(Auto Compound)
ระดับสูง: คุณสามารถตั้งค่าการทบต้นอัตโนมัติ (Auto-compound) เพื่อนำค่าธรรมเนียมของคุณกลับคืนสู่ตำแหน่ง (Position) ของคุณเพื่อรับผลตอบแทนทบต้น
มูลค่าเพิ่ม (Value Add): Aperture จะรวมตำแหน่ง(Position) ของคุณโดยอัตโนมัติในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามค่าธรรมเนียมที่ได้รับและค่าก๊าซที่สมดุล Aperture ยังดำเนินการแลกเปลี่ยนที่สมบูรณ์แบบที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าค่าธรรมเนียมของคุณกลับมา 100% หากคุณเคยลองใช้ค่าธรรมเนียมทบต้นด้วยตนเอง คุณจะรู้ว่าคุณไม่สามารถปรับสมดุลให้กลับเป็นอัตราส่วนที่สมบูรณ์แบบได้ คุณต้องเปลี่ยนค่าธรรมเนียมบางส่วนก่อนเพื่อให้ได้อัตราส่วนที่สมบูรณ์แบบที่คุณต้องการ Aperture จัดการทุกอย่างให้คุณ
ตัวอย่าง: การทบต้น( Auto-compound)ค่าธรรมเนียม WETH-USDC โดยอัตโนมัติ เมื่อใดก็ตามที่รายได้จากค่าธรรมเนียมที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์รวมมากกว่า $250 และค่าน้ำมันต่ำกว่า $50
1. คลิกที่ตำแหน่งที่คุณต้องการเปิดใช้งานการทบต้นอัตโนมัติและค้นหาปุ่มการทบต้นอัตโนมัติ (Auto-Compound) ในส่วน “ค่าธรรมเนียมที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์” (Unclaimed Fees)
2. สลับปุ่ม Auto-Compound และป้อนจำนวนค่าธรรมเนียมขั้นต่ำและจำนวนก๊าซสูงสุดเป็นดอลลาร์หรือเปอร์เซ็นต์ของตำแหน่ง (Position)
3. คลิกปุ่ม “อัตโนมัติ”!
4. คำสั่งจำกัดรายได้ (Revenue Earning Limit Orders)
ระดับสูง: ด้วยการให้สภาพคล่องของสินทรัพย์เดียวที่ราคาเดียว (จุดราคาหรือ price point) บน UniV3 คุณสามารถสร้างประสบการณ์การสั่งซื้อแบบจำกัด (limit order) และรับค่าธรรมเนียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มูลค่าเพิ่ม (Value Add): Aperture ได้สร้างอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายเพื่อวางคำสั่งจำกัด (limit orders) บน UniV3 สำหรับผู้ใช้หลายคน กระบวนการนี้ทำซ้ำได้ยากด้วยตนเอง เนื่องจากราคาของสินทรัพย์อาจผันผวนไปมาภายในช่วงราคาที่กำหนดก่อนที่จะมีโอกาสปิดตำแหน่งด้วยตนเอง เมื่อแปลงสินทรัพย์เริ่มต้นของคุณ 100% เป็นสินทรัพย์ที่คุณต้องการแล้ว Aperture จะปิดตำแหน่ง (Position) โดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากการคลาดเคลื่อนเป็นศูนย์แล้ว ผู้ใช้ยังจะได้รับค่าธรรมเนียมอย่างน้อย 0.3%ตัวอย่าง: Swap (ขาย) WBTC เป็น USDC เมื่อราคา WBTC มากกว่า $39,999
1. เลือก “จำกัดคำสั่งซื้อ” (Limit Orders)ที่ด้านซ้ายของเว็บแอป
2. เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการ Swap (ขาย) และสินทรัพย์ที่คุณต้องการ Swap (ซื้อ) จากนั้นเลือกราคาที่คุณต้องการขาย แล้วเลือกค่าแก๊สเป็นดอลลาร์หรือเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อ
3. คุณจะต้องอนุมัติการใช้โทเค็นโดย Uniswap หากคุณยังไม่ได้ดำเนินการ
4. จากนั้นคลิก “วางคำสั่งจำกัด”( Limit Order)
5. ตอนนี้คุณสามารถตรวจสอบสถานะของคำสั่งซื้อที่เปิดอยู่ได้จากส่วนคำสั่งจำกัด( Limit Order)ในเว็บแอป
เกี่ยวกับ ViaBTC Capital
ViaBTC Capital ซึ่งเป็นแบรนด์การลงทุนภายใต้ ViaBTC Group เน้นการลงทุนใน Web 3.0, Layer 2 และ DApps ที่รวมองค์ประกอบ DeFi, NFT หรือ DAO
อาศัยมุมมองที่ล้ำสมัยของ ViaBTC Group ความสามารถที่แข็งแกร่งและทรัพยากรที่ครอบคลุม ViaBTC Capital มีเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ต้องการสำหรับการเริ่มต้นใช้งานและการใช้งานที่สร้างสรรค์ในโลกของบล็อกเชน
Website: https://capital.viabtc.com/
Twitter: https://twitter.com/ViabtcCapital
