Chainalysis รายงานว่า พวกต้มตุ๋น (Scammer) กำลังหายไปเรื่อย ๆ แต่แรนซัมแวร์กำลังบูม
ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ ทว่านี่ไม่ใช่ข่าวดีเรื่องเดียวสำหรับวงการนี้ พวกต้มตุ๋นคริปโตกำลังทำเงินน้อยลงมากอีกด้วย
Chainalysis บริษัทด้านข้อมูลบล็อกเชน ได้เผยเมื่อวันพุธว่า อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีนั้นลดลงถึง 65% ในช่วงนี้เมื่อเทียบกับปี 2022 ข้อมูลนี้พื้นฐานมาจากเงินไหลเข้า (inflow) ของสินทรัพย์ดิจิทัลไปยังแหล่งที่ผิดกฎหมาย
บริษัทได้ระบุถึง address ของแหล่งที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืดหรือพวกที่โจมตีด้วยแรนซัมแวร์
รายงานเผยว่า เงินไหลเข้า (inflows) เข้าสู่ “แหล่งเสี่ยง” นั้น อาทิเช่น ตลาดซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูง ลดลงถึง 42% ซึ่งอาชญากรมักจะใช้บริการนี้ฟอกเงิน
Chainalysis กล่าวว่า เกิด market pullback ทั่วทั้งกระดาน แต่ “ปริมาณธุรกรรมคริปโตที่ผิดกฎหมายลดลงมากกว่าปริมาณธุรกรรมที่ถูกต้อง”
“สแกมเป็นรูปแบบดำเนินการที่ทำเงินสูงที่สุดจากอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีเสมอ แต่ตอนนี้ในปี 2023 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” บริษัทฯ เผย
มีรายงานว่า พวกต้มตุ๋นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตทำเงินลดลงถึง 77% เมื่อเทียบกับปี 2022 (ถึงเดือนมิถุนายน) สิ่งนี้น่าสังเกตเนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นในปีนี้ ปกติมักจะเป็นคุณต่ออาชญากรมากขึ้น
Bitcoin ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาต่ำกว่า $17,000 ต่อเหรียญ ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $30,500
รายงานกล่าวว่า “โดยปกติแล้วการเคลื่อนไหวของราคาเชิงบวกจะส่งให้การฉ้อโกงทำรายได้สูง น่าจะเป็นเพราะความอุดมสมบูรณ์ของตลาดที่เพิ่มขึ้นและ FOMO ทำให้คนที่ตกเป็นเหยื่อมีความอ่อนไหวต่อการเสนอของพวกต้มตุ๋นมากขึ้น”
แม้ว่าการต้มตุ๋นจะลดลง แต่การโจมตีแบบแรนซัมแวร์กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ที่มา : decrypt.co