Voyager Digital Holdings ผู้ให้กู้ crypto แบบรวมศูนย์ได้ปฏิเสธข้อเสนอจาก FTX และบริษัทด้านการลงทุน Alameda Ventures เพื่อซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดของบริษัท โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าว “ไม่ได้เป็นการเพิ่มมูลค่า” และอาจ “เป็นอันตรายต่อลูกค้า“
ในจดหมายปฏิเสธที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพิจารณาคดีล้มละลายที่กำลังดำเนินอยู่ ทนายความของ Voyager ประณามข้อเสนอที่ FTX, FTX US และ Alameda เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เพื่อซื้อทรัพย์สินทั้งหมดของ Voyager และยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ยกเว้นกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ของ 3AC
จดหมายระบุว่า การยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อสาธารณะอาจเป็นอันตรายต่อข้อตกลงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยล้มล้าง “กระบวนการประมูลที่มีการประสานงานเป็นความลับและมีการแข่งขันสูง” กล่าวเสริมว่า “AlamedaFTX ละเมิดภาระผูกพันหลายประการต่อลูกหนี้และศาลล้มละลาย“
ตัวแทนของ Voyager แนะนำว่า แผนการที่พวกเขาเสนอเพื่อจัดระเบียบบริษัทใหม่นั้นดีกว่าเพราะพวกเขาบอกว่าจะคืนเงินสดทั้งหมดของลูกค้าและ crypto ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเร็วที่สุด
Voyager ยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ในเขตทางใต้ของนิวยอร์กในข้อหาล้มละลายมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่กองทุนป้องกันความเสี่ยงคริปโต Three Arrows Capital (3AC) ผิดนัดชำระเงินกู้ 650 ล้านดอลลาร์จากบริษัท
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ทั้ง 3 บริษัทในเครือของ Sam Bankman-Fried ซีอีโอของ FTX ได้เสนอข้อตกลงให้กับ Voyager โดยให้ Alameda รับเอาทรัพย์สินทั้งหมดของ Voyager และใช้ FTX หรือ FTX US เพื่อขายและแจกจ่ายไปตามสัดส่วนให้กับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลาย
ในการแถลงข่าวของ FTX Bankman-Fried กล่าวว่าข้อเสนอของเขาเป็นวิธีที่ผู้ใช้ Voyager สามารถกู้คืนความสูญเสียและดำเนินการต่อจากแพลตฟอร์ม :
“ลูกค้าของ Voyager ไม่ได้เลือกที่จะเป็นนักลงทุนที่ล้มละลายเพียงเพราะไม่มีหลักประกัน เป้าหมายของข้อเสนอร่วมกันของเราคือการช่วยสร้างวิธีที่ดีกว่าในการแก้ไขปัญหาธุรกิจ crypto ที่ล้มละลาย”
Bankman-Fried อธิบายเหตุผลของบริษัทของเขาในการเสนอซื้อกิจการ Voyager ในกระทู้ Twitter เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เขากล่าวว่าลูกค้าของ Voyager “ผ่านพ้นมาพอสมควรแล้ว” และพวกเขาควรจะสามารถอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนได้หากต้องการในไม่ช้าก็เร็วเพราะกระบวนการล้มละลาย “อาจใช้เวลาหลายปี“
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram