กฎหมายแพ่งว่าด้วยความซื่อสัตย์ทางการเมืองและการเลือกที่เสนอในไอร์แลนด์ จะห้ามบริจาคคริปโตให้กับพรรคการเมืองในประเทศ
การบริจาคคริปโตเคอร์เรนรซีให้กับพรรคการเมือง จะถูกห้ามในไอร์แลนด์ภายใต้กฎหมายว่าด้วยความซื่อสัตย์ทางการเมืองฉบับใหม่ ซึ่งร่างขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงทางการเมืองจากต่างประเทศ
การแก้ไขเสนอโดยรัฐมนตรี Darragh O’Brien ยังครอบคลุมถึงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการบริจาคจากต่างประเทศ การให้ข้อมูลผิด ๆ และข้อกำหนดด้านความโปร่งใสอื่น ๆ สำหรับพรรคการเมือง โดยอ้างถึงความกลัวว่ารัสเซียจะแทรกแซงการเลือกตั้งของไอร์แลนด์
O’Brien พูดกับองค์กรอิสระเมื่อวันที่ 18 เมษายนว่า กฎหมายจะปกป้องระบบประชาธิปไตยของไอร์แลนด์ต่อไป “จากภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นของสงครามไซเบอร์ที่กำหนดเป้าหมายไปยังประเทศเสรี” และคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่จะดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย
ยังไม่ชัดเจนว่าการบริจาคทางการเมืองเป็นเปอร์เซ็นต์หรือเป็นเงินเท่าใดในปัจจุบันที่จ่ายให้กับพรรคการเมืองหรือบุคคลที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซีในการบริจาค
O’Brien เริ่มรณรงค์ปฏิรูปกฎหมายในเดือนมกราคม 2022 โดยจัดตั้งคณะนักรัฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อตรวจสอบกฎหมายการเลือกตั้งใหม่เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น
คณะทำงานให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เพื่อสร้าง “ป้อมปราการทางกฎหมายและดิจิทัล” ต่อการแทรกแซงการเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งรวมถึงฝ่ายต่างๆ ที่จัดทำรายงานการบัญชีที่คล่องตัวและประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเงินทุนทางการเมืองฉบับใหม่
การห้ามบริจาคทางการเมืองด้วยคริปโตนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัฐแคลิฟอร์เนียได้สั่งห้ามการปฏิบัติในปี 2018 โดยอ้างถึงประเด็นเรื่องความโปร่งใส และคริปโตเคอร์เรนซีนั้น “ยากต่อการติดตาม” อีกสามรัฐในสหรัฐฯ ได้แก่ โอเรกอน มิชิแกน และนอร์ธแคโรไลน่า ก็มีกฎหมายที่ต่อต้านการใช้คริปโตเคอเรนซีในการจัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญ ตามที่ Multistate รายงาน
ธนาคารกลางของไอร์แลนด์ได้ใช้แนวทางที่ไม่เป็นมิตรต่อคริปโตในอดีต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารระบุว่าไม่น่าจะอนุมัติกองทุนเพื่อการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่อคริปโตสำหรับนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากพวกเขาขาด “ความเชี่ยวชาญระดับสูง”
ธนาคารกลางแห่งไอร์แลนด์ยังได้ออกคำเตือนให้กับผู้บริโภคในเดือนต่อมาเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโต โดยแนะนำให้พวกเขาคำนึงถึง “ความเสี่ยงของโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้มีอิทธิพลจะได้รับเงินเพื่อโฆษณาสินทรัพย์คริปโต”
ที่มา : cointelegraph.com