Friday, November 22, 2024
Homeข่าวสาร คริปโตข่าว Bitcoinกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยึดทรัพย์ Bitcoin แล้ว มูลค่า $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคู่รักในข้อหาแฮ็กตลาด Bitfinex ในปี 2016...

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยึดทรัพย์ Bitcoin แล้ว มูลค่า $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคู่รักในข้อหาแฮ็กตลาด Bitfinex ในปี 2016 ครั้งใหญ่สุดในประวัติการณ์

บุคคลสองคนในแมนฮัตตันถูกจับกุมในข้อหาพยายามฟอกเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์แฮ็กตลาด Bitfinex ในปี 2016

กระทรวงยุติธรรมประกาศในวันนี้ว่า บุคคลสองคนถูกจับกุมในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฟอกคริปโตเคอร์เรนซีที่ถูกขโมยไประหว่างแฮ็ก Bitfinex ในปี 2016 

จนล่าสุด หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ยึด Bitcoin มูลค่ากว่า $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เชื่อมโยงกับการแฮ็ก ตามที่ DOJ รายงาน

“การจับกุมในวันนี้ และการจักกุมทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุด…แสดงให้เห็นว่าคริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่ที่หลบภัยของอาชญากร” รองอัยการสูงสุด Lisa O. Monaco กล่าว

“ด้วยความพยายามที่ไร้ประโยชน์ที่จะรักษานิรนามทางดิจิทัล จำเลยได้ฟอกเงินที่ถูกขโมยผ่านเขาวงกตของธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซี” คุณ Monaco กล่าว “เนื่องจากการทำงานอย่างพิถีพิถันของการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงฯ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่ามีความสามารถและติดตามเงินได้อย่างไร ไม่ว่ามันจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม”

โฆษก Bitfinex กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ DOJ ได้นำ Bitcoin ส่วนสำคัญที่ถูกขโมยไปในช่วงเหตุการณ์แฮ็กปี 2016 กลับมาได้ เราได้ให้ความร่วมมือกับทาง DOJ อย่างเต็มที่ นับตั้งแต่มีการสอบสวนเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้น” โฆษกของ Tether บริษัทในเครือกล่าวเพิ่มเติมว่า Bitfinex วางแผนทำงานร่วมกับ DOJ ต่อไป เพื่อนำ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปกลับมา “Bitfinex ตั้งใจที่จะให้ข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมเพื่อนำ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปกลับมาและอัพเดทอย่างต่อเนื่อง”

จากแถลงการณ์ของ DOJ นั้น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางได้จับกุม Ilya Lichtenstein และ Heather Morgan ภรรยาของเขา

ทั้งคู่มาจากนิวยอร์กซิตี้ และมีกำหนดปรากฏตัวครั้งแรกในศาลรัฐบาลกลายภายในวันนี้ เวลา 3:00 น. (ตามเวลา ET.) บุคคลทั้งสองถูกตั้งข้อหาสมร่วมคิดในการฟอกเงิน และสมรู้ร่วมคิดเพื่อฉ้อโกงสหรัฐฯ การจับกุมครั้งนี้มีโทษจำคุก 20 ปี และ 5 ปี ตามลำดับ

จากเอกสารของศาล ทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าสมคบกันฟอกเงินทั้งหมด 119,754 Bitcoins ที่ฉกมาจากแพลตฟอร์ม Bitfinex เมื่อตอนถูกแฮ็กในปี 2016

ในระหว่างแฮ็ก ธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า 2,000 รายการ ได้ส่งเงินอย่างผิดกฎหมายไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ภายใต้การควบคุมของ Lichtenstein เจ้าหน้าที่กล่าว ในที่สุดแล้ว “ด้วยกระบวนการฟอกเงินที่ซับซ้อน” เงินเหล่านี้บางส่วนลงเอยด้วยบัญชีแบบดั้งเดิมที่ควบคุมโดยทั้งคู่

เงินทุนที่เหลือถูกขโมยไป ประกอบไปด้วยมากกว่า 94,000 Bitcoins ยังคงอยู่ใน wallet ของ Lichtenstein ตามรายงานของ DOJ ตัวแทนของรัฐบาลกลางได้เข้าถึงไฟล์เหล่านั้นหลังจากมีการดำเนินการหมายค้นที่ได้รับอนุญาตจากศาล

Matthew M. Graves อัยการสหรัฐฯ ประจำ District of Columbia กล่าวว่า

คริปโตเคอร์เรนซีและตลาดซื้อขาย (Exchange) นั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินของสหรัฐฯ และการปล้นสกุลเงินดิจิทัลผ่านการฟอกเงินที่ซับซ้อนนั้นบ่อนทำลายความเชื่อมั่นต่อคริปโตเคอร์เรนซี

ในแง่ของวิธีการเคลื่อนย้ายเงินทุนนั้น ทางการรัฐบาลกลางกล่าวว่า ทั้งคู่ใช้ “เทคนิคการฟอกเงินที่ซับซ้อนมาก”

วิธีการเหลานั้นได้แก่ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่สมมติขึ้นเพื่อตั้งค่าบัญชีออนไลน์ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อทำธุรกรรมอัตโนมัติ และการฝากเงินที่ขโมยไปเข้าบัญชีตลาดซื้อขาย (Exchange) และตลาดมืดหลายแห่ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกกันทั่วไปว่า “layering” หรือการแปลสภาพทรัพย์สินโดยการสร้างธุรกรรมหลาย ๆ ชั้น

ทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าแปลง Bitcoin เป็นคริปโตสกุลเงินอื่น ๆ โดย DOJ อธิบายว่าเป็น “สกุลเงินเสมือนที่ไม่เปิดเผยตัวตน” เช่นเดียวกับการใช้บัญชีธุรกิจในสหรัฐฯ เพื่อทำให้กิจกรรมของพวกเขาถูกต้องตามกฎหมาย

“หน่วยงานพิเศษของหน่วยอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IRS-CI Cyber Crimes Unit) ได้เปิดเผยเทคนิคการฟอกเงินที่ซับซ้อนอีกครั้ง ทำให้พวกเขาสามารถติดตาม เข้าถึง และยึดเงินที่ถูกขโมยกลับมาได้ ซึ่งถือว่ายึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน มีมูลค่ามากกว่า $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ” Jim Lee หัวหน้า IRS-Criminal Investigation กล่าว

ที่มา :   decrypt.co

Sponsorspot_img
spot_img
spot_img
spot_img
ติดตาม Siambitcoin

ข่าวล่าสุด