ราคาโทเคน LEO พุ่งสูงขึ้น หลังจากมีข่าวว่า DOJ ยึดทรัพย์ Bitcoin จากการแฮ็ก Bitfinex เมื่อปี 2016
UNUS SED LEO token (LEO) ของ Bitfinex พุ่งทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) แตะ $8.14 ไม่นานหลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ประกาศยึดทรัพย์ Bitcoin จำนวน 94,000 Bitcoin ที่ขโมยไปจากการแฮ็ก Bitfinex ในเดือนสิงหาคม 2016
ราคา LEO ปรับลดลงเล็กน้อยตั้งแต่นั้นมา ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $7.37 (ข้อมูลจาก CoinGecko)
ราคายังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยปริมาณซื้อขายมากกว่า 80% เกิดขึ้นในตลาด FTX และแน่นอนบน Bitfinex
โทเคน LEO เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2019 เป็น utility token ของ Bitfinex และแพลตฟอร์มในเครือ ทำให้ผู้ถือครองได้ประโยชน์มากมาย รวมถึงเรื่องค่าธรรมเนียมลดลงและส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ
ไม่นานหลังจากเปิดตัว iFinex บริษัทแม่ของ Bitfinex ได้ใช้ LEO ระดมทุนได้ $1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขายโทเคนที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่แลกกับ Tether (USDT) เพื่อชดเชยมูลค่า $850 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่สูญเสียให้กับ Crypto Capital ธนาคารในปานามา
ราคาพุ่งขึ้นล่าสุด พบว่า LEO ขยับขึ้นเป็นเหรียญอันดับ 24 ตามมูลค่าราคาตลาด อาจเกิดจากการยึดทรัพย์ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปจากเหตุการณ์แฮ็ก Bitfinex ในเดือนสิงหาคม 2016
ตามรายงานของ DOJ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ยึดทรัพย์จำนวน 94,000 Bitcoin (มูลค่า $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์แฮ็ก ซึ่งจำนวนที่ Bitcoin ที่ถูกแฮ็กทั้งหมดในเวลาอยู่ที่ 119,756 BTC
นอกเหนือจาการยึดทรัพย์แล้ว หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยังจับกุมคู่รักจากนิวยอร์กซิตี้ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย
คู่รักถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดเพื่อฉ้อโกงสหรัฐ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
ที่มา : decrypt.co