Metaverse และ NFT ตกเป็นเป้าของธนาคารประชาชนจีน (PBoC) แล้ว ซึ่งต้องการติดตามด้วยเครื่องมือต่อต้านการฟอกเงิน
การปราบปรามคริปโตของจีนกำลังขยับขยายไปสู่ Metaverse และ nonfungible tokens (NFT) ผู้บริหารธนาคารประชาชนจีน (PBoC) กล่าวเป็นนัยเมื่อเร็ว ๆ นี้
คุณ Gou Wenjun ผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ที่ PBoC กล่าวในที่ประชุมสุดยอดความมั่นคงทางการเงินระดับประเทศ ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องจากเทรนด์ใหม่ของระบบนิเวศคริปโต อย่างเช่น NFT และ Metaverse ซึ่งยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุม เขาอ้างว่า แม้ว่าผู้คนใช้สินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวเป็นการส่วนตัวและสร้างความมั่งคั่ง แต่มีแนวโน้มที่จะถูกใช้ในทางผิดกฎหมาย อย่างเช่น การฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษี
นวัตกรรมที่รวดเร็วของโลกคริปโตจำเป็นต้องกำกับดูแลและควบคุมความเสี่ยง ผู้อำนวยการฯ กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า โดยทั่วไปแล้วคริปโต, NFT และไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse จากโลกจริงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินได้
แนะนำให้มองวิวัฒนาการของสินทรัพย์เสมือนจริงอย่างเป็นรูปธรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐาน คุณ Gou เสนอให้ “แจกแจงหน้าที่การกำกับดูแลให้ชัดเจน, ปรับปรุงความโปร่งใสของสินทรัพย์เสมือน และสำรวจการใช้งานแซนด์บ็อกกำกับดูแลเพื่อศึกษาและตัดสินสาระสำคัญและธรรมชาติของสินทรัพย์เสมือน”
ในขั้นที่สอง คุณ Gou บอกว่า จีนควรเสริมความแข็งแกร่งในการตรวจสอบและวิเคราะห์ธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ธนาคารและบริการเพย์เมนต์ที่ดำเนินการเกตเวย์คริปโต-เงินตรา ควรตรวจสอบผู้ส่งและผู้รับด้วยชื่อจริง ขณะที่ปรับปรุงขีดความสามารถในการระบุธุรกรรมที่น่าสงสัย
ผู้อำนวยการฯ ยังแนะนำให้ปรับปรุงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ และสร้างระบบติดตามธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและระบบติดตามสถานการณ์ ระบบดังกล่าวโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ด้วยเครื่อง (Machine Learning) และเทคโนโลยีอื่น ๆ
ท้ายที่สุดแล้ว คุณ Gou เสนอให้ปรับปรุงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข่าวกรองทางการเงินทั่วโลก เพื่อจัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศต่อสู้กับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต “ศูนย์ป้องกันและการปราบปรามการฟอกเงินจะยังคงส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและการร่วมมือสืบสวนสอบสวนกับหน่วยงานข่าวกรองทางการเงินในต่างประเทศ 60 แห่ง” เขาเสริม
ที่มา : cointelegraph.com