เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เฟดสหรัฐฯ (Federal Reserve ) เผยแพร่รายงานเสถียรภาพทางการเงินฉบับล่าสุด
รายงานเน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่าง ๆ ในภาคการเงิน รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับเสถียรภาพของเหรียญ Stablecoin เปรียบเทียบความเสี่ยงกับกองทุนตลาดเงิน
โดยอ้างอิงรายงานจากคณะทำงานของประธานาธิบดี (PWG) ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การประเมินของ Fed ก็คือว่า
เหรียญ Stablecoin บางส่วน ได้แก่เหรียญที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรับประกันว่าสามารถถอนได้ตลอดเวลาโดยมีมูลค่าคงที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐ แต่บางส่วนหนุนด้วยสินทรัพย์ที่อาจสูญเสียมูลค่าหรือไม่มีสภาพคล่อง หากสินทรัพย์ที่หนุนเหรียญ Stablecoin มีมูลค่าลดลง อาจไม่สามารถไถ่ถอนได้ตามมูลค่าคงที่ตามที่สัญญาไว้
รายงานเมื่อวานมีการสำรวจผู้เข้าร่วมในวงการสองครั้ง ครั้งแรกดำเนินการในฤดูใบไม้ผลิและอีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วง โดยขอให้พวกเขาระบุถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงิน
โพลสำรวจพบว่า Cryptocurrencies/Stablecoins อยู่ลำดับที่ 9 ตามจำนวนการอ้างอิงจากผู้เข้าร่วมตลาดเหล่านั้น เมื่อตอนฤดูใบไม้ร่วงขยับขึ้นอันดับ 5 เหนือกว่าความกังวลเรื่องสภาพภูมิอากาศทันที
ในขณะเดียวกันยังมีความเห็นกังวลความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงภัยคุกคามต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน จากประเด็นเรื่องวิกฤติหนี้สินของ Evergrande
ปัญหาการหนุนเหรียญ Stablecoin ได้กลายเป็นประเด็นอภิปรายหลักในหมู่หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสหรัฐฯ รายงาน PWG มีการร้องขออำนาจทางกฎหมายมากขึ้นจากสภาคองเกรส ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดใหม่ที่ผู้ออกเหรียญ Stableoin ต้องเป็นธนาคารที่มีประสิทธิภาพ และรายงานดังกล่าวยังสำทับโดย Financial Stability Oversight Council (FSOC) เพื่อกำหนดให้ Stablecoin ต่าง ๆ เป็นเพย์เมนต์ การหักบัญชี ที่มีความสำคัญอย่างเป็นระบบ ซึ่งเปิดทางให้มีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ
ความเกี่ยวข้องกันระหว่างสมาชิก Fed, PWG และ FSOC เพิ่มขึ้น คุณ Jerome Powell ประธาน Fed นั้นนั่งอยู่ใน PWG และ FSOC เคียงพร้อมคุณ Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ซึ่งรัฐมนตรีฯ เองเคยเป็นอดีตประธาน Fed ขณะที่คุณ Michael Hsu นั่งรักษาการสำนักงาน OCC ก็มีส่วนร่วมในรายงาน PWG เช่นกัน และก่อนหน้านี้เคยอยู่ใน Fed มาก่อนด้วย
ที่มา : theblockcrypto.com