สมาชิกสภาคองเกรสต้องการคำตอบจาก Twitter และซีอีโอ Jack Dorsey เกี่ยวกับการแฮ็กบัญชีในวันพุธ
คุณ Josh Hawley วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ต้องการคำตอบเกี่ยวกับการแฮ็กบัญชี Twitter ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์
ไม่ใช่เขาเพียงคนเดียวที่ต้องการคำตอบ คุณ Robert Wicker วุฒิสมาชิกฯ ประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านพาณิชย์วิทยาศาสตร์และการขนส่ง (Senate Committee on Commerce, Science and Transportation) และคุณ James Comer วุฒิสมาชิกฯ จากคณะกรรมาธิการสภาด้านการกำกับดูแลและการปฏิรูปของสหรัฐฯ (House Committee on Oversight and Reform) ก็มีเจตจำนงขอคำตอบเช่นกัน ข้อมูลจาก POLITICO สมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา (Senate Intelligence Committee) ก็กำลังหาคำตอบในเรื่องนี้ และสำนักข่าว Reuters รายงานว่า สำนักสืบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ (Federal Bureau of Investigation, FBI) ก็เปิดประเด็นสอบสวนหาคำตอบเช่นกัน
แม้ว่านักการเมืองจะได้คำตอบของพวกเขา แต่ก็มีโอกาสน้อยมากที่พวกเขาจะเห็นการดำเนินการทางกฎหมายในเร็ว ๆ นี้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ทันช่วงเลือกตั้งปีที่โรคระบาดครั้งใหญ่
นับว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก …ในวันพฤหัสฯ Twitter บอกว่า มีผู้ได้รับผลกระทบมากถึง 130 บัญชี เนื่องจาก Twitter เป็นแหล่งข้อมูลออนไลน์เกี่ยวข้องกับโลกแบบเรียลไทม์ ดูเหมือนว่านักการเมืองจะเห็นด้วยกับความจริงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลเลือกตั้ง
“การโจมตีแฮ็ก Twitter เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความกังวลมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและแพลตฟอร์ม Twitter ถูกใช้เป็นอันตรายต่อสาธารณะได้อย่างไร” คุณ Letitia James อัยการสูงสุดของนิวยอร์ก เขียนเอาไว้ในจดหมายประกาศว่ารัฐของเธอกำลังสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อยู่
ทว่า จดหมายฉบับที่สองของวุฒิสมาชิก Hawley ตัวแทนความคิดของพรรครีพับลิกัน คาดว่ามีประเด็นถกเถียงมากขึ้น คุณ Hawley ดูเหมือนจะมุ่งเน้นความเสี่ยงต่อผู้ใช้งานที่ถูกแฮ็ก ผู้ใช้งานจากรีพับลิกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump (หนึ่งในเป้าหมายเมื่อวันพุธก็คือ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคู่แข่งอย่าง Joe Biden รวมถึงอดีตประธานาธิบดี Barack Obama ด้วย)
ต่อไปนี้ คือความเห็นของคุณ Hawley บางส่วน
โปรดนิยามคำว่า “Search Blacklist,” “Trends Blacklist,” “Bounced,” and “ReadOnly.” พร้อมทั้งอธิบายแต่ละคำด้วย เนื่องจากสถานะคำดังกล่าวปรากฏบนบัญชีผู้ใช้ส่งผลต่อการมองเห็นทวีตของผู้ใช้งานหรือไม่…Twitter บ่งชี้ผลกระทบต่อผู้ใช้โดยแสดงคำเหล่านี้ หรือมาตรการอื่น ๆ ที่คล้าย ๆ ว่าจะลดการเข้าถึงผู้ใช้งานต่อบัญชีของพวกเขาหรือทวีตของพวกเขามองเห็นได้น้อยลงหรือไม่?” หากคำตอบคือไม่ เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น?…การตั้งค่าสถานะคำเหล่านั้น หรือคำอื่น ๆ คล้าย ๆ กันจำกัดการมองเห็นของผู้ใช้งานทวีต หรือบัญชีที่เคยใช้งาน หรือทวีตของประธานาธิบดี Trump หรือ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้ง? หากเป็นเช่นนั้น โปรดบันทึกรายละเอียดเอาไว้ด้วย
เนื้อหาในจดหมายนั่นส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งในหมู่นักอนุรักษ์นิยม ที่ Twitter ตกเป็นประเด็นถูกใช้เป็นเครื่องมือ และมีการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับการเปิดตัวของ Gab และ Parler และถูกใช้สร้างประเด็ดเผ็ดร้อนเป็นครั้งคราว อย่างเช่นกรณีของ Hawley และ Trump
ความกังวลของคุณ Hawley ต่อเหตุการณ์แฮ็กในวันพุธ มาจากข้อถกเถียงเป็นประเด็นในอดีตมาก่อน
เรื่องนี้สร้างความน่าผิดหวังมาก การโจมตีพยายามเข้าถึงบัญชีของคนอื่นแล้วหลอกล่อขอเงินผ่าน Bitcoin และอาจถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก โดยใช้บัญชีของบุคคลสำคัญ ๆ สร้างความตื่นตะหนกอย่างโกลาหล ยกตัวอย่างเช่น จะเกิดอะไรขึ้นหากบัญชีของ Elon Musk ประกาศว่าเขาจะปิดบริษัทของเขาลง? และจะเป็นอย่างไรหากมีคนยึดบัญชีของประธานาธิบดี แล้วประกาศสงคราม? เราเคยเห็นมาก่อนแล้วว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในปี 2016 อย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นหากนี่คือการทดสอบการโจมตีข้อมูลการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน?
ที่มา : theblockcrypto.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต