หลังจากราคาฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่ง จากราคา $3,775 ไปจนถึง $6,450 แล้ว ราคา Bitcoin (BTC) ก็ซื้อขายอยู่ในช่วงแคบ ๆ ซึ่งเห็นได้จากราคาขับสู้กันอยู่ในช่วงราคา $6,400 ถึง $6,850 ซึ่งเป็นระดับแนวต้านที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคาก็ตีกลับลงมาในปัจจุบัน ตัวชี้วัดทางเทคนิค อย่างเช่น โมเดล Stock-to-Flow และอัตรา hash rate มีความสอดคล้องกันว่า นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นเล็กน้อย
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาเช่นกัน ก็คือ ขนาดธุรกรรมตกค้าง (Mempool Size) ของ Bitcoin ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกว่า ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย มีปฏิกิริยาอย่างไรท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้
Bitcoin Mempool คือ ยอดธุรกรรมคงค้างทั้งหมดอยู่ในเครือข่ายที่รอคอนเฟิร์มยืนยันจากฝ่ายขุด (miner) ยิ่งขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) สูงมากเท่าใดก็ต้องใช้เวลายืนยันการทำธุรกรรมมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากจำเป็นต้องยืนยันบล็อกเพิ่มเติม
หากเกิดปัญหาติดขัดใน memory pool เนื่องจากขนาดธุรกรรมผิดปกติระหว่างรอการยืนยัน มีโอกาสที่ค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมสูงขึ้นมาก
ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) ของ Bitcoin แตะสูงสุดในประวัติการณ์ สูงกว่า 130MB/block ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ภายในไม่กี่วันหลังจากเบรกราคาสูงสุดในประวัติการณ์ ($20,000) เล็กน้อย
ต่อไปนี้ จะพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดธุรกรรมคงค้างที่รอยืนยัน กับ ราคา Bitcoin จะพบว่า ความสัมพันธ์แปรผกผันกันในช่วงที่ราคาปรับฐาน อย่างเช่น กรณีที่นักลงทุนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
ปี 2020 ขนาดธุรกรรมคงค้าง แปรผกผันกับราคา Bitcoin
เมื่อพิจารณาช่วงเวลาตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง 13 มีนาคม Bitcoin มูลค่าลดลง 60% เราพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) กับราคา Bitcoin นั้น ติดลบ -41.2% ช่วงนี้มีความสัมพันธ์กันสูงมากตลอดช่วงปี 2020
ความสัมพันธ์กัน 100% หมายถึง ราคา Bitcoin กับ ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) ไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ -100% หมายถึง มีความสัมพันธ์แปรผกผันกัน และความสัมพันธ์ 0% หมายถึง ตัวแปรไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใดเลย
ความเคลื่อนไหวของราคาปัจจุบันสะท้อนปี 2016
ช่วงราคาปรับฐานในปี 2016 ราคา Bitcoin ขณะนั้นมูลค่าลดลง 20% เราพบว่าขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) กับราคา Bitcoin มีความสัมพันธ์กันเชิงลบสูงมาก ช่วงหนึ่งแปรผกผัน (-83.1%) และ ช่วงเวลาอื่น ๆ ติดลบน้อย (-4.6%)
ในช่วงปรับฐาน 6 ช่วง มูลค่าลดลง 20% ในปี 2017 และ 2018 เราพบว่า ไม่สามารถสรุปความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ และไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพิจารณาสองช่วงเวลาในครึ่งหลังของปี 2017 อย่างละเอียด เมื่อราคา Bitcoin ทำราคาสูงสุดในประวัติการณ์ พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) กับราคา Bitcoin นั้นแปรผกผันกันอย่างชัดเจน
ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ถึง 12 พฤศจิกายน ความสัมพันธ์ติดลบสูงมาก (-85.9%) ในขณะที่ระหว่าง 17 ธันวาคม ถึง 25 ธันวาคม ความสัมพันธ์ติดลบน้อยมาก (-5.6%)
ความสัมพันธ์เชิงบวกในปี 2019
ในช่วงปี 2019 ในช่วงราคาปรับฐานสี่ช่วง พบว่า ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) กับราคา Bitcoin มีความสัมพันธ์เชิงบวก ช่วงเว้นช่วงท้ายปีมีความสัมพันธ์ติดลบเล็กน้อย
ความสัมพันธ์เชิงบวกเมื่อพิจารณาทั้งปี
เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ในแต่ละปี แทนที่จะวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในแต่ละช่วงเวลา เราพบเทรนด์อย่างชัดเจนว่า ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) กับราคา Bitcoin มีความสัมพันธ์เป็นบวก
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์เชิงบวกสูงมากในปี 2017 (80.8%) และในปี 2018 (72.2%) ทั้งนี้ ไม่สามารถสรุปเทรนด์ในช่วงปรับฐานในปีที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน และเทรนด์เป็นบวกแต่บวกไม่มาก พบในปี 2016 (26.3%) และ 2019 (9.5%) ขณะที่ปี 2020 ทั้งมีความสัมพันธ์ระหว่างกันน้อยมาก (2.34%)
สัปดาห์ที่แล้ว ขนาดธุรกรรมคงค้าง (mempool size) ของ Bitcoin สูงขึ้น แต่ราคาลดลง เมื่อพิจารณาไปในอนาคต อาจพบความสัมพันธ์เชิงลบท่ามกลางความไม่แน่นอนของราคา Bitcoin ในระยะสั้น
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต