เหตุการณ์ Bitcoin halving ในเดือนพฤษภาคมใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อเร็ว ๆ Coinbase บอกว่า “Bitcoin จะเป็นทองคำดิจิทัล (Digital Gold)” ใน Twitter ทวีตเผยแพร่บล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ให้เหตุผลสำคัญว่าทำไมเหตุการณ์ halving และอุปทานที่ลดลงเชื่อมโยงกันอย่างแข็งแกร่ง
ความขาดแคลนทำให้เกิดมูลค่าขึ้น
ตั้งแต่มาตรฐานทองคำถูกทำลายลงในปี 1971 ค่าเงินดอลลาร์ลดลงและมูลค่าทองคำพุ่งขึ้นกว่า 4000% ทองคำมีค่ามากกว่าโลหะมีค่าอื่น ๆ อย่างเช่น ทองแดง เนื่องจากความขาดแคลน (scarcity) และหายาก (acquire)
Bitcoin ถูกออกแบบมาให้ขาดแคลนคล้ายกับทองคำและหายากผ่านกระบวน Proof-of-Work ในการขุด อย่างไรก็ตามมันมีข้อได้เปรียบกว่าทองคำเนื่องจากสามารถถ่ายโอนผ่านช่องทางการสื่อสารได้
Coinbase สรุปว่า
เนื่องจากความได้เปรียบจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การพัฒนาที่รวดเร็ว และตลาดเติบโตทั่วโลก Bitcoin จึงเป็นตัวเก็บมูลค่ากลายเป็นคู่แข่งขันกับทองคำในยุคดิจิทัล
เหตุการณ์ Halving ทำให้หายากมากขึ้น
ปริมาณ Bitcoin ถูกจำกัดจากการออกแบบ เมื่อโทเคนใหม่ ๆ เกิดขึ้นจะได้รับรางวัลทำธุรกรรมต่อบล็อก เริ่มต้นระดับรางวัลอยู่ที่ 50 BTC ต่อบล็อก และได้ผ่านเหตุการณ์ halving สองครั้งแล้ว ปัจจุบันลดเหลือ 12.5 BTC ต่อบล็อก
หลังจากเหตุการณ์ halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 รางวัลการขุดบล็อกใหม่ จะลดลงเหลือ 6.25 BTC ทำให้ปริมาณการออก Bitcoin อยู่ที่อัตรา 1.7% ต่อปี
Stock-to-flow (S2F) เป็นการประเมินอัตราอุปทานใหม่เทียบกับอุปทานทั้งหมด และหลังเหตุการณ์ halving นั้น S2F ของ Bitcoin ความหายากจะอยู่ในระดับเดียวกับทองคำ (Gold)
“Stock-to-flow (S2F) ของทองคำสูงว่าโลหะมีค่าอื่น ๆ แต่ Bitcoin จะตามมาในไม่ช้า” Coinbase เน้นย้ำ
จะไม่เกิดมูลค่าหากไม่มีความต้องการ (Demand)
การทำนายS2F ในเรื่องราคาจะล้มเหลวหากไม่มีความต้องการ (Demand) เกิดขึ้น และเรื่องนี้เป็นความจริงไม่ว่าจะเป็นเงินตราและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย ธนาคารกลางเพิ่มปริมาณเงิน เศรษฐกิจก็เติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม หากปริมาณมากเกินไปก็อาจให้เกิดเหตุการณ์เงินเฟ้อตามมา
เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อย่างเช่น ทองคำ (Gold) และ Bitcoin และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้เกิดความกลัวสูงขึ้น (จากดัชนี Global Economic Policy Uncertainty Index)
ทั้งนี้ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การพัฒนาที่รวดเร็ว จึงสมเหตุสมผลที่Bitcoin ได้ชื่อว่าเป็น ทองคำดิจิทัล (Digital Gold) ตามที่ Coinbase ประเมินนั่นเอง
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต