เมื่อเร็ว ๆ นี้ Bitcoin (BTC) ร่วงจาก $7,600 และลดลงอย่างรวดเร็วถึง $6,800 มูลค่าลดลงเกือบ 10% หลังจากนั้นดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ราว ๆ $7,000 ผู้รอซื้อหวังช้อนซื้อต่ำกว่าราคา $7,000
เมื่อมูลค่า Bitcoin ลดลง ลากให้ตลาดทั้งหมดร่วงตามไปด้วย เหรียญ Ether (ETH) หลุดแนวรับ $150 และมูลค่าลดลงเกือบ -15% มาอยู่ที่ราคา $137
Bitcoin ครองสัดส่วนตลาดที่ 69% นั่นหมายความว่า BTC ยังครองสัดส่วนตลาดคริปโตเคอร์เรนซีสูงที่สุด แม้ว่าตลาดร่วงหนักในสัปดาห์นี้ก็ตาม
กราฟรายสัปดาห์
กราฟราคารายสัปดาห์ Bitcoin ร่วง 16% นับจากราคา $8,500 แล้วหลุดแนวรับ $7,600 และหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (MA) ราคา Bitcoin ไม่อาจทัดทานเอาไว้ได้และเกิดแรงเทขายไปจนถึง 61.8% retracement แล้วร่วงต่อไปถึง 65% retracement จากจุดสูงสุดของปี 2019 ซึ่งเป็นแนวรับระดับปานกลาง
ช่วงระดับ Fibonacci retracement ระหว่าง 61.8% ถึง 65% บางครั้งเรียกว่า “golden pocket” ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนขายทำกำไรระยะสั้น หรือมองหาตำแหน่งเข้าซื้อ ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่เราอธิบายว่าเป็นแนวรับสำคัญ และเส้น MA กราฟรายสัปดาห์ 50 วัน (50-MA) ก็ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่สำคัญเช่นเดียวกัน
โดยทั่วเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50-100 สัปดาห์ ตัดกันเป็นตัวบ่งชี้ตลาดขาขึ้น (bull market) และคาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามราคา Bitcoin ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ก่อนหน้านี้แล้ว โดยที่เส้น 100-week MA ราคาแนวรับอยู่ที่ $7,600
ตอนนี้ เส้นค่าเฉลี่ย 100-week MA และที่ระดับราคา $7,600 กลายเป็นแนวต้าน (resistance) ของราคาของสถานการณ์ขาขึ้นแทน
ดังนั้นตลาดกระทิงขาขึ้น แท่งเทียนราคาจำเป็นต้องยืนยันโดยปิดเหนือราคา $7,600 ก่อน ระดับ Fibonacci level และแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่รายสัปดาห์ต้องลงถึงระดับ $5,000 โดยทั่วไปถือเป็นแนวรับสุดท้ายก่อนเป็นขาขึ้น
กราฟราคารายวัน
กราฟราคารายวัน เมื่อพิจารณาขาลงโดยเฉพาะ ราคา BTC หลุดแนวรับที่ $7,600 แล้วผ่านแนวรับก่อนหน้านี้ที่ 7,400
ปริมาณซื้อขาย (Volume) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสูงกว่าแท่งก่อนหน้านี้ อินดิเตอร์การลู่เข้าหากันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Convergence Divergence) หรือ MACD โค้งต่ำลงแสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมขาลงเพิ่มขึ้น
ราคา Bitcoin ต่ำสุดอยู่ตรงไหน?
เมื่อพิจารณากราฟราคารายวันจากระยะไกล ชัดเจนว่า Bitcoin กำลังแตะกรอบล่างของช่อง channel ขาลง ซึ่งเป็นราคาซื้อขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
โดยปกติแล้ว พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นแนวรับของการกลับตัวขาขึ้น มักจะใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะดีดตัวกลับสู่ระดับบนของช่อง channel
เมื่อราคาเบรกช่องสามเหลี่ยม (descending triangle) ลงมาจาก $9,550 ราคาเป้าหมายทางเทคนิคอาจลงถึงราคา $6,000
จุดนี้เป็นโซนราคาที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ระดับราคา $6,500 เป็นจุดดีดตัวกลับเกิดขึ้นมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากมีการเทขายครั้งใหญ่บนตลาด Bitstamp ที่พบการซื้อขายปริมาณมาก หรือเรียกว่า VPVR หรือ Volume Profile Visible Range นั่นเอง
เมื่อพิจารณาเทรนด์และการวิเคราะห์ทางเทคนิคเท่านั้น ดูเหมือนว่ามีเหตุผลที่ดี โดยมองหาจุดเข้าซื้อในช่วงโซนราคา $6,000
ความเชื่อมั่นของตลาด
เมื่อมองข้ามตลาดที่แตกต่าง อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างที่น่าสนใจกำลังเกิดขึ้นแล้ว เมื่อพิจารณาปริมาณซื้อขาย (volume) ปริมาณขาย (selling volume) ลาดต่ำลงจากระดับราคา $10,000 นั่นหมายความว่าแรงเทขายเบาบางลงแล้ว
ตลาด exchange แบบ spot เกิดสัญญาณไดเวอร์เจนขาขึ้น (bullish divergence) หรือ OBV แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงเทขายลดลงแล้ว ตลาด OTC market ใน GBTC ก็กำลังเกิด higher low นั่นหมายความว่า กำลังเกิดสัญญาณของขาขึ้น
กราฟราคาราย 4 ชั่วโมง
กราฟราคาราย 4 ชั่วโมง ชัดเจนว่า Bitcoin วิ่งลงเป็นรูปโค้งพาราโบลา โค้งลงทะลุแนวรับกราฟรายสัปดาห์ ส่วนRSI กำลังเกิดเงื่อนไขมีการขายมากเกินไป (oversold) แล้ว โดยทั่วไปแล้วแสดงถึงความเชื่อมั่นขา sell ในตลาดลดลง
การดีดตัวกลับของราคาจะพิจารณาในกราฟราคาราย 4 ชั่วโมง และมองหาแนวรับใหม่ การทำจุดต่ำสุดใหม่รายวันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับขาขึ้น
สุดท้าย ดัชนี Fear and Greed index ชัดเจนว่า ปัจจุบันตลาดเกิดความกลัวสูงมาก (extreme fear) หลังจากขยับจากความกลัวระดับปกติ (neutral) ในช่วงเดือนตุลาคม
ปกติแล้ว ราคา Bitcoin จะมีความสัมพันธ์ผกผันกับดัชนี (Fear and Greed index) นี้
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต