สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กล่าวว่า Libra ของ Facebook อาจเสี่ยงต่อผู้บริโภค เนื่องจากขาดความชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิ์ของพวกเขาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อ้างอิง (underlying assets) ของโทเคนและระบบโดยรวม
เลล เบรนาร์ด (Lael Brainard) ผู้ทำหน้าที่ประธานกรรมการ Fed ด้านความมั่นคงทางการเงิน กิจการธนาคารกลาง กิจการผู้บริโภคและชุมชนสัมพันธ์ และการชำระเงิน การส่งมอบและชำราคาตราสารหนี้ ได้วิพากษ์วิจารณ์ Libra ในช่วงกล่าวสุนทรพจน์ในงานฟอรัม “The Future of Money in the Digital Age” ว่าด้วยอนาคตทางการเงินในยุคดิจิทัล ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม
สิทธิผู้บริโภคยังไม่ชัดเจน
Brainard กล่าวถึงตัวเลขปัจจุบันของเครือข่ายเพย์เมนต์ที่มีอยู่แพลตฟอร์มดิจิทัล อย่างเช่น Alibaba และ WeChat โดยประมาณคร่าว ๆ จาก AliPay และ WechatPay มีการชำระเงินผ่านมือถือมากกว่า $37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2018 เพียงปีเดียว
ทว่าการนำเสนอเครือข่าย Stablecoin ระดับโลกของ Facebook มีฐานผู้ใช้งาน 2.7 พันล้านราย จำเป็นต้องเร่งอภิปรายเกี่ยวกับรูปแบบอนาคตทางการเงินในปัจจุบันและในอนาคตเป็นพิเศษ “ทั้งในประเด็นคำถามเกี่ยวกับกฎหมายและการกำกับความปลอดภัย นโยบายและเสถียรภาพทางการเงิน” เธอกล่าว
ขณะที่โทเคนอย่าง Libra อาจมีลักษณะของสินทรัพย์สถาบันทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) เธอชี้ถึงความกังวลของ “การออกสกุลเงินดิจิทัลเอกชนที่หนุนด้วยตะกร้าสกุลเงินตรา” จากโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เธอเน้นย้ำเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมายและการกำกับดูแลการฝากเงิน การประกันความรับผิดชอบ และการรับผิดชอบกรณีที่มีการฉ้อโกงเกิดขึ้น การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ย มันยังไม่มีความชัดเจนต่อผู้ใช้งาน Libra เลย
ไม่เพียงแต่ Libra ไม่ชัดเจนในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสิ่งที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์เรียกร้องเท่านั้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าผู้บริโภคมีความเสี่ยงด้านราคามากน้อยเพียงใด เนื่องจากพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในสินทรัพย์อ้างอิงของเหรียญ Stablecoin ผู้บริโภคจำเป็นต้องได้รับการแจ้งเตือนว่า Stablecoin นั้นแตกต่างจากสกุลเงินตราที่ออกโดยรัฐบาลในแง่ของกฎหมายอย่างสิ้นเชิง
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต