ประเทศใดก็ตามที่เห็นการใช้งาน Libra สกุลเงินดิจิทัลของ Facebook อย่างกว้างขวาง พบว่านโยบายธนาคารจะถูกทำลายอย่างรุนแรง นี่คือ มุมมองของ Hiromi Yamaoka อดีตผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ที่ดูแลการวิจัยเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลสำหรับองค์กร
การอุบัติขึ้นของ Libra จะกดดันให้ผู้กำหนดนโยบายทำผิดวินัยของตนเอง
ปัญหามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นก็คือ “หาก Libra มีคนใช้งานอย่างกว้างขวางมากกว่าสกุลเงินตราของประเทศ” Yamaoka
ทว่าตอนนี้ไม่ควรมีความกังวลมากเกินไปสำหรับประเทศที่เชื่อมั่นในตลาดค่าเงินที่เข้มแข็งของตนเอง Libra สามารถเร่งหรือกระตุ้นให้คนในประเทศขนเงินหนีออกนอกประเทศ (capital flight) เนื่องจากตลาดมีความน่าเชื่อถือต่ำ
ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เขากล่าวว่า “การอุบัติขึ้นของ Libra จะกดดันผู้กำหนดนโยบายทำผิดวินัยของตนเอง” และหากไม่ทำอะไรเลยมันจะบ่อนทำลายคุณค่าสกุลเงินของพวกเขาเอง
การดำเนินการของ Libra ที่หนุนสำรอง (ตรึง) กับตระกร้าสินทรัพย์จริงจากสกุลเงินหลัก ความกลัวของผู้กำหนดนโยบายก็คือ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในตระกร้านี้จะสามารถเคลื่อนย้ายตลาดและมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน สิ่งเหล่านี้เป็นการละเมิดนโยบายสกุลเงินของชาตินั่นเอง Yamaoka บอกกับทาง Reuters
ความร่วมมือระดับโลกจำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
มีหนทางเดียวที่จะป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวก็คือ ความร่วมมือด้านกำกับดูแลทั่วโลก เนื่องจาก Libra จะเป็นสกุลเงินของโลก “ความไม่สอดคล้องลงรอยกันของกฎระหว่างประเทศต่าง ๆ เกิดช่องโหว่ทำให้การบังคับใช้ไม่ได้ผล” Yamaoka กล่าว
อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบต่าง ๆ อาจเป็นเหตุให้การเปิดตัวLibra มีความล่าช้า Yamaoka เชื่อว่าการแบนทั้งหมดจะยุ่งยากไม่สามารถทำได้และไม่มีประสิทธิภาพ “ไม่มีทางหยุดนวัตกรรมได้” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ Facebook แจ้งนักลงทุนอย่างตรงไปตรงมาว่า Libra อาจไม่สามารถเปิดตัวสำเร็จ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินต่าง ๆ
ที่มา : cointelegraph.com