“มันปลอดภัยจริง ๆ หรือ? มันเป็นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์รึเปล่า? มันคือโทเคนสำหรับใช้ชำระเงินใช่หรือไม่? มันคือโทเคนอรรถประโยชน์ใช่ไหม? มันเป็นคำถามที่สำคัญมาก…ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น แต่กลายเป็นคำถามระดับโลก”
Jeff Bandman อดีตที่ปรึกษาฟินเทคจากสำนักงานคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐอเมริกา(CFTC) พูดคุยกับทาง CoinDesk เกี่ยวกับ Libra สกุลเงินคริปโตของFacebook ในรายการสดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
มีการเน้นย้ำคำถาม “หนึ่งในคำถามที่สำคัญยิ่งเกี่ยวกับ Libra คืออะไรกันแน่” Bandman กล่าวว่าคงใช้เวลาอีกนานที่หน่วยงานกำกับดูแลจะตัดสินใจต่อ Libra ของ Facebook และท้ายที่สุดแล้วจะจัดมันอยู่ในประเภทใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของ Facebook เท่านั้น เขากล่าวว่า
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Facebook ว่าจะสามารถเลือกประเภทได้ด้วยตัวเอง…แล้วหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินจะเห็นพ้องกับมัน พวกเขา (หน่วยงานกำกับดูแลฯ) จะอยู่เบื้องหลังฉาก ไม่ใช่แค่เรื่องรูปแบบ [ของ Libra] แต่เป็นเนื้อหาสาระและฟังก์ชั่น แล้วพวกเขาจะตัดสินใจว่ามันคืออะไรกันแน่
Jeff Bandman
Bandman ในฐานะที่ปรึกษา CFTC เป็นผู้ก่อตั้ง LabCFTC หน่วยงานภายในที่ทุ่มเทให้กับเทคโนโลยีอุบัติใหม่รวมถึงสกุลเงินคริปโตด้วย
ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจาก Gary Gensler อดีตประธาน CFTC โต้แย้งเอาไว้ในคำแถลงการณ์ที่เตรียมนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ตามความเห็นของเขามองว่า Libra ของ Facebook ดูเหมือนว่าจะเป็นเครื่องมือเพื่อการลงทุน จึงมีความปลอดภัย และจำเป็นต้องมีการกำกับดูแล
อย่างไรก็ตาม Bandman กลับเห็นแย้ง เนื่องจากความทะเยอทะยานของ Facebook ต่อการเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก คำจำกัดความโทเคนอาจแตกต่างออกไป
“หาก Libra เป็นระบบชำระเงิน ระบบชำระเงินนั้นมักควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน” Bandman กล่าว“หลังจากนั้นคุณต้องพิจารณาดูว่า Libra จะนำไปใช้งานในทุกประเทศด้วยหรือไม่…แน่นอนว่า พวกเขาจะมีคำจำกัดความแตกต่างกันบ้าง Libra อาจจะปลอดภัยในสหรัฐฯ แต่อาจไม่ใช่ในสวิตเซอร์แลนด์”
Bandman ชี้ว่า กลุ่มของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Libra มากที่สุด ก็คือ กลุ่มอำนาจในการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมี มีหน่วยงานต่าง ๆ ได้กำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและได้ข้อสรุปโดยทั่วไปว่าพวกมันมิได้เป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงิน” เขากล่าว
แต่ตอนนี้คุณกำลังจะมีแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้งาน 2.5 พันล้านคนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าอะไรก็ตามมันมีขนาดใหญ่มหึมา มิได้หมายความว่ามันจะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินทันที แต่เนื่องจากระดับสเกลของมันหากมันหลุดพ้นจากพื้นดินและเปิดตัวเมื่อไหร่หล่ะก็ มันสามารถส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินตั้งแต่วันแรก
Jeff Bandman
“มีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันมองว่าเป็นปัญหาโดยส่วนตัวก็คือ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Facebook แบนโฆษณาเกี่ยวกับคริปโต แต่ขณะเดียวกันก็กำลังทำงานเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตของตนเอง” เขากล่าวสรุป
ที่มา : coindesk.com