นอกเหนือจากนักลงทุนกลุ่มปลาวาฬ (whale) นักลงทุนกลุ่มอื่น ๆ ควรเรียนรู้เกี่ยวกับความน่าเกรงขามของนักขุดคริปโตที่มีต้นทุนพลังงานไฟฟ้าเป็นศูนย์ เหตุผลก็คือ? จุดคุ้มทุนของพวกเขาต่ำมากสามารถดันราคา Bitcoin ให้พุ่งสูงขึ้น และอาจไปถึงเลขเจ็ดหลักก็เป็นไปได้
สัปดาห์ล่าสุด ตำรวจจีนได้จับกุมนักขุดคริปโตในข้อหาขโมยไฟฟ้าทำกิจกรรมเหมืองขุดคริปโตมูลค่าประมาณ $3 ล้านดอลลาร์ มีการใช้อุปกรณ์ทำเหมืองขุดประมาณ 4,000 เครื่องอย่างผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันจำนวน bitcoin ที่ขุดได้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มันมีความสำคัญมาก การดำเนินการทำนองนี้ที่ตรวจพบเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น อาจมีการทำเหมืองขุดที่ผิดกฎหมายอีกจำนวนมากในประเทศจีน
นักขุดที่ทำผิดกฎหมายกำลังทำกำไรอย่างบ้าคลั่ง
ปัจจุบันต้นทุนการขุด Bitcoin ในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ $8,000 โดยคิดต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ราคาประมาณ $0.045 ต่อกิโลวัตต์ แต่เมื่อต้นทุนกลายเป็นศูนย์ เนื่องจากมีการขโมยไฟฟ้าในการขุดนั่นเอง นั่นหมายความว่าต้นทุนจริงมีเพียงแค่ค่าอุปกรณ์ขุด บุคลากร และค่าเช่าเท่านั้น
เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้ามีผลต่อกำไรที่ขุดได้ หากใครมีต้นทุนค่าไฟฟ้าเป็นศูนย์ จุดคุ้มทุนจะต่ำกว่า $8,000 ซึ่งต่ำกว่าราคา Bitcoin ในตลาดทั่วโลก
นั่นหมายความที่ราคาปัจจุบัน นักทำเหมืองขุดคริปโตที่ผิดกฎหมายในประเทศจีนกำลังทำกำไรอย่างบ้าคลั่ง และพวกเขาอาจทำกำไรแม้แต่ในช่วงตลาดหมี (bear market) อีกด้วย
แรงจูงใจในการขายเมื่อมีโอกาสค่อนข้างสูง ส่งผลให้ราคามีความผันผวนสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการซื้อขายต่ำอย่างเช่นช่วงสุดสัปดาห์ จำนวน BTC ที่เหลืออยู่ทำให้ราคาร่วงลงมาก
การปรามปราบเหมืองขุดที่ผิดกฎหมายของจีนยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้แล้ว เมื่อราคาจุดคุ้มทุนต่ำมาก มีโอกาสที่จะทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
เมื่อปีที่แล้ว เมื่อราคา Bitcoin แตะจุดต่ำสุด และจุดคุ้มทุนอยู่ที่ราว ๆ $3,550 นักธุรกิจเหมืองขุดขาดทุน และหลีกเลี่ยงการขาย แต่หากพวกเขามีต้นทุนค่าไฟฟ้าฟรี พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงฤดูหนาวของคริปโต (crypto winter) แต่อย่างใด
ดังนั้น แม้ว่าจีนไม่แยแสต่อต่อสกุลเงินคริปโตนัก คาดว่าทางการจีนจะยังคงปราบปรามเหมืองขุดที่ทำผิดกฎหมายต่อไป พวกเขาจะทำตามใจตนเองและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศคริปโตโดยรวม
ที่มา : ccn.com