เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มกลับมาทำกำไรสะสมหลังจากผ่านฤดูหนาวคริปโท
(crypto winter) ไปได้ นับแต่นั้นมาราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่องเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
(spring) การขุดสินทรัพย์ดิจิทัลจากเครื่องขุดรุ่นล่าสุดกำลังทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
แม้แต่เครื่องรุ่นเก่าก็เริ่มกลับมาทำกำไรแล้วเช่นกัน
เครื่องขุด SHA-256 ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าทำกำไรดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน
หลังจากที่ราคา bitcoin core (BTC) และ bitcoin cash (BCH) กลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เครื่องขุดอัลกอริทึม SHA-256 สามารถทำกำไรได้พอสมควร เทรนด์มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดือนธันวาคมที่แล้วเมื่อ news.Bitcoin.com เคยรายงานว่ามีเพียงเครื่องขุด SHA256 ห้ารุ่นเท่านั้นที่ทำกำไรในเวลานั้น ปัจจุบันเครื่องขุดส่วนใหญ่ทำกำไรค่อนข้างดี และจากข้อมูลโดยเฉลี่ยแล้วกินพลังงาน $0.10 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (KWh) เครื่องขุดที่ทำกำไรสูงสุด 10 อันดับแรก มากกว่า $10-15 ต่อเครื่องต่อวัน
เครื่องขุดเหล่านี้ได้แก่ Asicminer Pro (76TH/s), Antminer S17 (56TH/s), Innosilicon T3 (52TH/s) และ Bitfury Tardis (80TH/s) นอกจากนี้หากเครื่องขุดตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่และใช้พลังงาน $0.04 ต่อกิโลวัตต์ แล้วใช้เครื่องขุดรุ่นใหม่ล่าสุดจะสามารถทำกำไรได้ถึงวันละ $15-21 ต่อเครื่อง และตอนนี้จีนอยู่ในช่วงฤดูฝน ต้นทุนค่าไฟฟ้าในมณฑเสฉวนอาจต่ำเพียง 0.08 หยวน ($0.01) นั่นหมายความว่าเหมืองขุดที่มีประสิทธิภาพสูงจะทำกำไรสูงถึงวันละ $25 ต่อเครื่อง
จากข้อมูลสถิติ จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าไฟฟ้าถูกที่สุดในโลก หากขุดเหรียญด้วยอัลกอริทึม SHA-256 อย่างเช่น BCH และ BTC ตามมาด้วยประเทศอย่าง อินเดีย แคนาดา และรัสเซีย ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและในยุโรปส่วนใหญ่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงกว่าค่าเฉลี่ย ภูมิภาคที่มีต้นทุนการขุดค่าไฟฟ้าแพงที่สุดของโลก ได้แก่ เยอรมนี เดนมาร์ก เบลเยียม และอิตาลี เนื่องจากแต่ละประเทศมีต้นทุนประมาณ $0.15-0.30 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
Zhang Xilin ตัวแทนจำหน่ายเครื่องขุดใน Huaqiang North ให้รายละเอียดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “ราคาเครื่องขุดมือสองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ตัวอย่างเช่น จากข้อมูล เครื่องขุด Antminer S9s รุ่นเก่าที่ประสิทธิภาพ 13-14.5 TH/s จะขุดได้ $0.25-0.50 ต่อเครื่องที่อัตรา 13 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หากขุดในสหรัฐฯ หรือยุโรป และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าของค่าเฉลี่ยโลกหากขุดในมณฑลเสฉวนที่เต็มไปด้วยเครื่อง S9s รุ่นเก่า ในสหรัฐฯ มีเครื่อง ASIC รุ่นเก่าขายจำนวนมากเช่นกัน บนเว็บไซต์อย่าง Craigslist และ Ebay
เครื่องขุด Obelisk & Cuckatoo และ 112 รุ่นสามารถทำกำไรได้
เครื่องขุดประมวลผลอัลกอริทึม SHA256 ขุด BTC หรือ BCH มิใช่เครื่องที่ทำกำไรสูงที่สุดในปัจจุบัน อุปกรณ์ขุดเหรียญอย่าง sia และ grin ต่างทำกำไรอย่างมากในเดือนล่าสุด ตัวอย่างเช่น เครื่องขุดประมวลผลอัลกอริทึมอย่าง Obelisk หรือ Cuckatoo31+ สามารถทำกำไรได้วันละ $30-50 ต่อเครื่อง
เครื่องขุด Obelisk และ Cuckatoo รุ่นถัดไป ประกาศออกมาแล้วแต่ยังไม่ได้ผลิต ทว่าสามารถทำกำไรได้ $ 50-250 ต่อวัน ได้แก่รุ่น Obelisk GRN1 Immersion (สิงหาคม 2019) และ Innosilicon G32-1800 (สิงหาคม 2019) เครื่องขุด X11 อย่างรุ่น U STU-U6 จะออกจำน่ายในเดือนกรกฎาคม เคลมว่าประสิทธิภาพอยู่ที่ 660 GH/s จะทำกำไรได้ราว ๆ วันละ $40 ต่อเครื่อง ที่ต้นทุนค่าไฟฟ้า $0.10 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
จากอัตราแลกเปลี่ยนคริปโทในทุกวันนี้ เครื่องขุดจำนวน 112 รุ่นสามารถขุดคริปโทเคอร์เรนซีและกำไรได้อย่างน้อยวันละ $0.10 ต่อเครื่อง ที่ต้นทุนอัตราค่าไฟฟ้า $0.10 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง รวมถึงเครื่องขุดรุ่นเก่าของ Canaan, Bitmain, GMO, Bitfury, Innosilicon และ Ebang ด้วย มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ราคาคริปโทร่วงหนักในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม นักขุดได้ทอดทิ้งเครื่องขุดและขายเครื่องถูกมาก ปัจจุบันเครื่องขุดประมวลผลอัลกอริทึม SHA256 ขุด BTC และ BCH อัตราการแฮชเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปได้ว่าเนื่องมาจากกำไรเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ที่มา : news.bitcoin.com