เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้ชื่นชอบคริปโทเคอร์เรนซีรู้สึกดีใจที่ได้ยินว่าผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ได้แก่ Whole Foods, Lowes, Petco, Regal Cinemas และ Gamestop ยอมรับการจ่ายเงินด้วยคริปโท การชำระเงินดำเนินการโดยสตาร์ทอัพ Flexa โดยใช้กระเป๋าสตางค์เงินฝาก (custodial wallet) ที่เรียกว่า ‘Spedn’ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถใช้จ่ายด้วย bitcoin core, ethereum, bitcoin และ GUSD ได้
Spedn App ช่วยให้สามารถซื้อคริปโทได้จากห้างค้าปลีกที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง
สินทรัพย์ดิจิทัลถูกผลักดันในวันนี้จากสตาร์ทอัพ Flexa และมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ใหม่ที่เรียกว่า Spedn ผู้ใช้งานสามารถใช้จ่ายคริปโทเคอร์เรนซีหลากหลาย ได้แก่ BCH, BTC, GUSD และ ETH ในห้างร้านที่มีชื่อเสียงได้ ห้างร้านเหล่านั้นได้แก่ Lowes, Gamestop, Whole Foods, Petco, Barnes & Noble, Regal Cinemas, Baskin Robbins, Crate และ Barrel รวมถึง Nordstrom ด้วย สตาร์ทอัพรายงานว่าแอพพลิเคชั่นเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Flexa และเครือข่ายร้านค้าปลีก และบริษัทการเงินดิจิทัลอย่าง Gemini แพลตฟอร์มโดยพื้นฐานช่วยให้ผู้ใช้งานโหลดใช้งาน wallet กับเหรียญใดเหรียญหนึ่งและใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าพันธมิตรได้
เครือข่าย Flexa เป็นโครงการที่ก่อตั้งโดย Tyler Spalding, Trevor Filter, Zachary Kilgore และ Daniel McCabe โดย Flexa อธิบายว่าได้ใช้คริปโทเคอร์เรนซีของตัวเองที่เรียกว่า Flexacoin อยู่หลังฉาก โดยพื้นฐานแล้ว Flexacoin จะใช้เป็นหลักประกันการชำระเงินจนกว่าการทำธุรกรรมจะครบหนึ่งในสี่บล็อกสาธารณะ ทีมงานบอกว่าพวกเขาสร้าง Flexa ขึ้นมา เพราะเชื่อว่าเครือข่ายการชำระเงินที่มีอยู่เดิมนั้นใช้งานไม่ได้ และแทนที่จะร่วมมือกับผู้ให้บริการบัตรเดบิต พวกเขากลับตัดสินใจทำงานกับเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตแทน
“ในปีที่ผ่านมา เราสร้างความร่วมมือครั้งใหม่กับจุดขายซื้อขาย (point-of-sale) ของร้านค้านับหมื่นแห่งทั่วประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงโครงสร้างพื้นฐานจากระบบการชำระเงินแบบเดิม และผลักดันการชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซีโดยตรงไปยังร้านค้าในนามของคุณเอง ” Flexa เน้นย้ำในประกาศ
ห้างร้านบางส่วนที่ยอมรับคริปโทเคอร์เรนซี อย่างเช่น bitcoin cash ผ่านแอพพลิเคชั่น Spedn
30,476 ร้านค้ากำลังยอมรับคริปโท
ในบล็อกของบริษัทรายงานว่า เบื้องต้นพันธมิตรที่สามารถให้ผู้ใช้งานใช้จ่ายคริปโทมีมากถึง 30,476 ร้านค้า Flexa ยังบอกอีกว่าบริษัทจะมีแอพที่เกี่ยวข้องกับ Flexa network ออกมาอีก และภายในปีนี้สตาร์ทอัพจะปล่อย SDK แบบโอเพนซอร์สออกมา ดังนั้นจะทำให้ wallet ต่าง ๆ สามารถผนวกเข้ากับระบบชำระเงินของ Flexa ได้เช่นเดียวกัน
บริษัทเน้นย้ำว่าตั้งใจแสดงให้โลกเห็นว่า “คริปโทเคอร์เรนซีไม่เพียงแค่ส่งให้เพื่อนเท่านั้น แต่สามารถใช้จ่ายเงินได้ทุกอย่าง ทั้งใช้จ่ายค่าสินค้า รับประทานอาหาร และอื่น ๆ”
“ตอนนี้ เราคงได้เห็นแล้วว่าร้านค้ามีความตื่นเต้นอย่างไร เมื่อสามารถรับคริปโทเคอร์เรนซีกับร้านค้าของพวกเขาได้ เพื่อลดการฉ้อโกงและต้นทุนในการทำธุรกรรม” Flexa เน้นย้ำ และยังกล่าวอีกต่อไปว่า
ทุกวันนี้โลกของการชำระเงินกำลังพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็ว และเราเชื่อว่า Flexa จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้เข้าถึงการค้าได้มากขึ้นทั่วโลก
ที่มา : news.bitcoin.com
