Trustology ก่อตั้งโดยนักเทคโนโลยีที่เคยทำงานกับธนาคารอย่างเช่น BNY Mellon, RBS และ Barclays ประกาศเปิดตัว crypto vault ที่ควบคุมบน iPhone ซึ่งอ้างว่าความปลอดภัยเทียบเท่าระดับสถาบันการเงิน
บริษัทประกาศออกมาเมื่อวันพุธ TrustVault เวอร์ชั่นแรกสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Apple UK App Store และช่วงเริ่มต้นสามารถใช้เก็บ ether คริปโทเคอร์เรนซีที่ออกโดย Ethereum บล็อกเชนสาธารณะ ส่วน Bitcoin และโทเคนมาตรฐาน ERC-20 บน Ethereum จะรองรับในภายหลังเร็ว ๆ นี้
Trustology ปิดการระดมทุนได้ $8 ล้านดอลลาร์เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งนำโดย ConsenSys สตูดิโอออกแบบ ethereum และ Two Sigma Ventures บริษัทย่อยของกองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีของ Two Sigma Investments
เริ่มแรก คาดว่า TrustVault ดูเหมือนว่าจะเหมือนกับแอพ crypto wallet บนมือถือเหมือนเจ้าอื่น ๆ แต่มีหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลังการทำงาน มีการผนวกอย่างชาญฉลาดของโมดูลความปลอดภัยฮาร์ดแวร์ (HSM) ที่ดำเนินการโดย Trustology กับกระบวนการตรวจสอบแบบกระจายศูนย์ระหว่างบุคคลจากศูนย์ข้อความที่ปลอดภัย (secure data center)
Spelling this out, Alex Batlin, Trustology’s founder and CEO told CoinDesk,
Alex Batlin ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Trustology บอกกับทาง CoinDesk ว่า
มันจะช่วยให้คุณใช้งานมือถือได้ง่าย แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เราพูดถึงอยู่เสมอคือ บัญชี TrustVault เมื่อพูดถึงโทรศัพท์แล้วคุณอาจจะนึกถึงเพียงแค่แอพมือถือ แต่นั่นเหมือนกับเป็นการบอกว่าบัญชีธนาคารของฉันเป็นเพียงแอพธนาคาร มันดูเหมือนว่าเป็นแอพง่าย ๆ แต่พลังของมันจริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับบริการเบื้องหลังมันต่างหาก
Alex Batlin
แท้จริงแล้ว คล้ายกับธนาคาร Trustology บอกลูกค้าล่วงหน้า และหากมือถือหายก็สามารถกู้บัญชีคืนกลับมาได้ เนื่องจากคีย์ส่วนตัว (private key) ของ crypto wallet ไม่ได้เก็บไว้ในอุปกรณ์แต่อย่างใด
Batlin บอกว่า แต่ยังต้องอาศัยการติดตั้งจากมนุษย์ในกระบวนการบางส่วน โดยทั่วไปไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้เป็นโซลูชั่นการเก็บแบบเย็น (cold storage solution) ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมงจึงจะเข้าถึงสินทรัพย์ได้ เมื่อผู้ใช้งาน TrustVault เข้าสู่ระบบแล้ว สามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนได้ทันทีเกือบหรือเข้าถึงได้โดยอัตโนมัติ
“ปัญหาเรื่องคนคุณจะลดการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างแน่นอน และจะลดการโจมตีทางกายภาพด้วย เนื่องจากในที่สุดแล้ว บุคคลจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ล่าช้ามาก”
ที่มา : coindesk.com