ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้รวบรวมข้อสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (central bank digital currencies, CBDC) ในรายงานชำระดุลประจำปี เมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม
การพัฒนาเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (DLT) และสินทรัพย์ดิจิทัลก่อให้เกิดการถกเถียงกันในเรื่อง CBDC โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อุรุกวัยและตูนิเซียออก CBDC ของพวกเขาเอง
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง CBDC ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันก็วางแผนจะเปิดตัวในต้นปี 2018 แต่แนวคิดดังกล่าวถูกทิ้งไป รายงานได้ข้อสรุปการทดสอบโซลูชั่นที่ใช้บล็อกเชน โดยทั่วไปอ้างถึงผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะสามารถใช้งานกันอย่างกว้างขวางหากมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพมากเพียงพอ
รายงานมุ่งเน้นความจริงที่ว่า CBDC สามารถใช้ได้ไม่เพียงแต่เฉพาะทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงินที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้กับไมโครเพย์เมนต์ (micropayment) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานยังบอกอีกว่าความสามารถในการติดตามธุรกรรมผ่านบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์และการไม่เปิดเผยตัวตนเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ CBDC นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า CBDC ที่ใช้บล็อกเชนนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้นในการชำระเงินเนื่องจากไม่สามารถยกเลิกการทำธุรกรรมได้ อย่างไรก็ตามการใช้เงินดิจิทัลจะไม่ลดเวลาในการโอนลงอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับเรื่องผลกระทบต่อนโยบายการเงินและความมั่นคงทางการเงิน ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยืนยันว่า CBDC อาจทำให้บทบาทของธนาคารพาณิชย์ลดลง เนื่องจากสถาบันทางการเงินอาจฝากเงินไว้ใน CBDC ส่งผลให้จำนวนเงินในธนาคารแบบดั้งเดิมลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในอีกแง่หนึ่ง ธนาคารจะได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นและมีบทบาทนำในฐานะเป็นผู้ออก CBDC ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบเรื่อง CBDC อย่างถี่ถ้วนก่อนออกใช้งานจริง เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกอย่างแน่นอน
กล่าวโดยโดยสรุป ผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้ยังคงแสดงจุดยืนของธนาคารกลางที่จะไม่ออก CBDC ของตนเอง อย่างไรก็ตามธนาคารกำลังวางแผนที่จะดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ CBDC ต่อไป พร้อมมุ่งมั่นตั้งเป้าลดการใช้เงินสดและติดตามแนวโน้มสกุลเงินดิจิทัลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ธนาคารกลางได้ประกาศทดสอบการชำระราคาและชำระหลักทรัพย์โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะดำเนินการในปลายปีนี้
ที่มา : cointelegraph.com
