Tether กำลังเตรียมพร้อมเปิดตัว stablecoin ซึ่งเป็นโทเคน native token บนบล็อกเชนของ Tron
บริษัทประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ความพยายามครั้งนี้ Tether กำลังร่วมมือกับมูลนิธิ Tron Foundation เพื่อเปิดตัว USDT stablecoin เป็นโทเคน TRC-20 ซึ่งเป็นมาตรฐานทางเทคนิคที่บล็อกเชน Tron ใช้ในการสร้างโทเคน สามารถเข้ากันได้และคล้ายกับมาตรฐาน ERC-20 ของ ethereum
บริษัทบอกว่า การเพิ่มโทเคนดังกล่าวเข้ามาจะช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้นโดยใช้แอพพลิเคชั่นกระจายศูนย์ (dapps) และโปรโตคอลตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Tron blockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาหวังว่าจะให้ทำตลาดซื้อขายแบบกระจายศูนย์มีสภาพคล่องและทำให้นักลงทุนสถาบันเข้าถึง Tron มากขึ้น เนื่องจากเครือข่ายของโทเคนมีเสถียรภาพ
Tether เดิมมีอยู่แล้วเป็น stablecoin สร้างบน bitcoin และบล็อกเชน ether ในแถลงการณ์ Jean-Louis van der Velde ซีอีโอ Tether กล่าวชื่นชมความร่วมมือดังกล่าวว่า
การร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมในวงการคริปโทเคอร์เรนซี ขณะเดียวกันเราทำตามความจำเป็นและความต้องการของชุมชนผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
Jean-Louis van der Velde
คาดว่า USDT เวอร์ชั่นใหม่จะเปิดตัวได้ในไตรมาสหน้า
Tether เป็น stablecoin ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก (จากข้อมูล CoinMarketCap นั้นเป็นคริปโทเคอร์เรนซี ติด 10 อันดับแรกตามมูลค่าราคาตลาด) อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามว่าคริปโทเคอร์เรนซีที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 จะอยู่ได้นานแค่ไหนในตลาด
ขณะที่บริษัทสัญญาว่าจะว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อตรวจสอบการถือครอง แต่ยังไม่ได้ทำหลังจากพึ่งแยกทางกับ Friedman LLP เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
Deltec Bank & Trust ในบาฮามาสซึ่งให้บริการด้านการธนาคารแก่บริษัท ได้ออกจดหมายยืนยันว่า Tether มีบัญชีและสินทรัพย์มูลค่า $1.8 พันล้านเหรียญในเวลานั้น (ในปัจจุบันโทเคน USDT ทั้งหมดหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น $2 พันล้านดอลลาร์)
Tron มีข้อกังวลใด ๆ เกี่ยวกับคำถามประเด็นนี้หรือไม่ ที่ตัวแทน CoinDesk อ้างถึงรายงานของ Bloomberg ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบริษัทถือครองโดยมีโทเคนสำรองในการหมุนเวียนมากเพียงพอ อย่างน้อยก็ในระยะเวลาสี่เดือน
Justin Sun ซีอีโอของ Tron กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ความร่วมมือกับ Tether ทำให้เกิดโทเคน USDT มาตรฐาน TRC-20 ของ TRON ขึ้นมา จะทำให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นและเกิดเสถียรภาพอย่างไม่น่าเชื่อ”
เขาบอกอีกว่า ผู้ใช้งานจะสามารถ “แลกโทเคนกับดอลลาร์สหรัฐได้อย่างง่ายดาย”
ที่มา : coindesk.com