สภาทองคำโลก (World Gold Council, WGC) กล่าวว่าคริปโตเคอเรนซี่นั้น “ไม่สามารถแทนที่ทองคำ” ได้
WGC ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาตลาดสำหรับอุตสาหกรรมทองคำได้ตีพิมพ์รายงานเมื่อปลายเดือนที่แล้วโดยให้เหตุผลว่าทองคำนั้น “แตกต่างอย่างมาก” กับสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมันมีความผันผวนน้อยกว่า มีตลาดที่มีสภาพคล่องมากกว่า และมีการซื้อขายในสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ดี ท่ามกลางปัจจัยอื่น ๆ ก็เป็นเช่นนั้น
ราคาทองคำแข็งค่าขึ้น 10% ต่อปีโดยเฉลี่ย เนื่องจากการล่มสลายของระบบการเงิน Bretton Woods (ซึ่งตรึงสกุลเงินหลักไว้กับโลหะมีค่า) ในปี 1970 WGC กล่าว ขณะที่ความผันผวนลดลงในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา
ในทางกลับกันราคา Bitcoin นั้น “ผันผวนสูงมาก ประมาณ 10 เท่าของราคาทองคำเทียบกับดอลลาร์” ดังนั้นมันจึงไม่ดีเท่ากับสกุลเงินตรา WGC ให้ความเห็นว่า “นับประสาอะไรกับสิ่งสะสมมีมูลค่า มีการใช้งานเป็นโทเคนในการทำธุรกรรมอย่างจำกัด”
ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin นั้น “ต่ำมาก” เมื่อเปรียบเทียบกับทองคำและสกุลเงินตราอื่น ๆ WGC กล่าวว่าจากสถิติ Bitcoin นั้นทำการซื้อขาย $2 พันล้านเหรียญต่อวันโดยเฉลี่ย น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณตลาดทองคำโดยรวมประมาณ $250,000 ล้านเหรียญต่อวัน
WGC กล่าวว่าความต้องการทองคำมีอุปทานหลากหลายจึง “ตอบโจทย์” และเป็นทางในเลือกการลงทุน “ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าดี” เป็นตัวเลือกในพอร์ตการลงทุนในฐานะนักกระจายความเสี่ยง และมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ราคาและความต้องการทองคำยังไม่แสดงสัญญาณผลกระทบจากการเข้ามาแข่งขันของคริปโต สภาทองคำโลกยังกล่าวอีกว่า สกุลเงินดิจิทัลแข่งขันกันระหว่างกันเองมากกว่า เนื่องจากมีโทเคนหลายพันให้เลือกสรร
WGC สรุปว่า
ประสิทธิภาพของ [Bitcoin] นั้นมีความโดดเด่น แต่จุดประสงค์ในการลงทุนนั้นค่อนข้างแตกต่างจากทองคำ สกุลเงินดิจิทัลยังไม่ได้ผ่านการทดสอบในอีกหลายตลาด
สภาทองคำโลก
สำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้น สภาทองคำโลกแสดงท่าทีในเชิงบวกมากขึ้น กล่าวว่าเทคโนโลยีนี้เป็น “ นวัตกรรมที่แท้จริง” และอาจเป็นประโยชน์ในการให้บริการทางการเงินและบริการอื่น ๆ รวมถึงในอุตสาหกรรมทองคำด้วย
Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้งของ PayPal เห็นแย้งเมื่อปีที่แล้วว่า bitcoin นั้นเทียบเท่ากับทองคำดิจิทัล เหมือนกับทองคำมาก เขากล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลนั้นถูกกำหนดให้เป็นสิ่งสะสมที่มีมูลค่ามากกว่าใช้เป็นวิธีการชำระเงิน
“มันเหมือนกับแท่งทองคำที่อยู่ในหลุมฝังศพที่ไม่มีวันขยับ” Thiel กล่าว “มันใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากโลกทั้งใบที่กำลังแตกสลาย”
ที่มา : coindesk.com