รายงานจาก Galaxy Digital เผยการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์ (decentralized governance) ของ Ethereum หลีกเลี่ยงการลงคะแนนเสียงบนเชนโดยตรง ชี้ให้เห็นบทบาทสำคัญของผู้มีส่วนได้เสียและความท้าทายด้านความโปร่งใส
Galaxy Digital เผยรายงานชี้ให้เห็นว่า การกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์ของ Ethereum นั้น ขับเคลื่อนโดยการลงคะแนนเสียงแบบออฟเชน มากกว่าการลงคะแนนเสียงโดยผู้ถือ ETH บนเชน
Christine Kim รองประธานฝ่ายวิจัยของ Galaxy Digital ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน รายงานดังกล่าวเผยให้เห็นถึงผู้มีส่วนได้เสียหลายรายที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล Ethereum
ระบบนิเวศ Ethereum ประกอบด้วยกลุ่มผู้มีส่วนร่วมที่หลากหลาย ได้แก่ ทีมพัฒนาไคลเอ็นต์ (client teams) ผู้ดำเนินการโหนดตรวจสอบ (validator node operators) มูลนิธิ Ethereum Foundation (EF) และนักพัฒนา DApp
ทีมไคลเอ็นต์ (client teams) ผู้ดำเนินการโหนดตรวจสอบ (validator node operators)
รายงานระบุว่า ทีมไคลเอ็นต์ (client teams) มีบทบาทสำคัญในกระบวนการตัดสินใจ เสนอ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และดำเนินการเปลี่ยนแปลงผ่าน Ethereum Improvement Proposals (EIPs)
ทีมไคลเอ็นต์ทำหน้าที่สร้างและดูแลซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานและเชื่อมต่อกับเครือข่าย Ethereum
รายงานยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้ดำเนินการโหนดตรวจสอบ (validator node operators) ที่มี “อำนาจในการนำไปใช้หรือปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงโค้ด” บนเครือข่าย Ethereum เปรียบเสมือนการลงคะแนนเสียงโดยเลือกเวอร์ชันซอฟต์แวร์ที่จะรัน
แม้ว่าอิทธิพลโดยตรงของ Ethereum Foundation (EF) จะลดลงตามกาลเวลา แต่ยังคงสนับสนุนความพยายามพัฒนา Ethereum ในฐานะ “องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุด” ของ Ethereum
นักพัฒนา DApp, ฟอรัม และชุมชน
รายงานของ Kim เผยให้เห็นอีกว่า ผู้พัฒนา DApp มีบทบาทสำคัญในการกำหนดฟีเจอร์และอัปเกรดบางอย่าง โดยพิจารณาจากความต้องการของผู้ใช้
“นักพัฒนา DApp คือผู้ใช้งานหลักของ Ethereum โดยมีปฏิสัมพันธ์กับ Ethereum codebase เพื่อใช้งานและนำไปปรับใช้โค้ดสัญญาอัจฉริยะ (smart contract code)”
รายงานระบุว่า การหารือเกี่ยวกับการกำกับดูแลแบบออฟเชน ยังเกิดขึ้นบนฟอรัมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการบรรลุฉันทามติของผู้มีส่วนได้เสีย
การอภิปรายการกำกับดูแล Ethereum เกิดขึ้นในหลายเวที ได้แก่ การประชุม Ethereum All Core Developers (ACD), ETHMagicians, Ethresear.ch, Discord และ GitHub
Off-chain หรือ on-chain?
รายงานฉบับนี้ยังเน้นย้ำถึงเหตุผลเบื้องหลังที่ Ethereum เลือกใช้ระบบการกำกับดูแลแบบออฟเชนแทนการลงคะแนนเสียงแบบออนเชน เนื่องมาจากความเสี่ยงที่ผู้ถือ Ether (ETH) รายใหญ่จะมีอิทธิพลเหนือกว่า
ผู้ถือ ETH ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการตัดสินใจใด ๆ ผ่านข้อเสนอแบบ on-chain หรือ decentralized autonomous organizations (DAOs)
วิธีการแบบ Off-chain ช่วยป้องกันการรวมศูนย์อำนาจ และรักษาการตัดสินใจที่มีความละเอียดอ่อน ถึงแม้ว่าจะ “ยากต่อการตรวจสอบและประเมินผลอย่างเป็นกลาง” ก็ตาม
ที่มา : cointelegraph.com