ราคา Bitcoin ร่วงลง 2.5% แตะระดับ 60,300 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567 หลังจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ ราคา Bitcoin เคยอยู่ที่ 63,400 ดอลลาร์สหรัฐ ของวันศุกร์ แต่แล้วไม่นานราคาก็ร่วงลงต่ำกว่า 61,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ข้อมูลจาก Coinglass ชี้ว่า ความผันผวนของตลาดในครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ต (liquidation) มูลค่ารวม 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 24 ชั่วโมง จำนวนมูลค่าที่ใหญ่สุดเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม Binance ในคู่สกุล BTC/USDT เป็นมูลค่า 3.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Lorie Logan ประธานธนาคารกลางแห่งดัลลัส (Dallas Fed) กล่าวในงานประชุมของสมาคมธนาคารรัฐลุยเซียนา (Louisiana Bankers Association) ที่นิวออร์ลีนส์เมื่อสัปดาห์นี้ว่า “อาจเร็วเกินไปที่จะคิดถึงการปรับลดดอกเบี้ย”
เงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยกดดัน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ล้มเหลวในการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลาง นอกจากนี้ ข้อมูลในวันศุกร์ยังแสดงให้เห็นถึงการพุ่งสูงขึ้นของคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค โดยคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 3.5% ในเดือนพฤษภาคมปี 2568
Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางแห่งแอตแลนตา (Atlanta Fed) ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังคงปรับลดลง แต่คาดว่าจะลดลงเพียง 25 จุดก่อนสิ้นปีนี้เท่านั้น
“ฉันยังคงมีความเชื่อนั้นอยู่” เขากล่าว พร้อมระบุว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่เงินเฟ้อจะลดลงในที่สุด
ดอกเบี้ยกับบิตคอยน์
โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงถูกมองว่าเป็นผลดีต่อบิตคอยน์และตลาดหุ้น เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถกู้ยืมเงินได้ในราคาที่ถูกลงเพื่อนำไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
