มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จำลองสถานการณ์ ‘สงครามสกุลเงินดิจิทัล’ ต่อสภาความมั่นคงของสหรัฐฯ

โรงเรียนรัฐบาลจอห์นเอฟเคนเนดี้แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University’s Kennedy School) จำลองสถานการณ์จริงต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว (White House National Security Council Staff) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ซึ่งมีอดีตผู้บริหารอาวุโสและผู้นำทางความคิดเข้าร่วม เหตุการณ์ “Digital Currency Wars” หรือสงครามสกุลเงินดิจิทัล เป็นการตรวจสอบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ จีนเปิดใช้งานเงินหยวนดิจิทัล (Digital Yuan)

หากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจล้มเหลว สหรัฐฯ จะใช้มาตรการอะไรต่อไป?

สถานการณ์จำลองขึ้นถึงเหตุการณ์ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเงินหยวนดิจิทัลเปิดใช้งานทางทฤษฎีมาแล้ว 20 เดือนก่อนหน้านี้ เงินหยวนดิจิทัลเกิดขึ้นไม่เพียงแต่ครองพื้นที่การชำระเงินในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังใช้งานง่ายอีกด้วย โครงการหนึ่งเข็มขัดเศรษฐกิจ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) กำลังเป็นที่ยอมรับทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เกมสถานการณ์ประกอบด้วย ข่าวทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ รุดหน้าเหนือกว่าที่วอชิงตันคิดมาก และเชื่อว่าได้รับการสนับสนุนเงินทุนต่อต้านการคว่ำบาตรผ่านทางการใช้เงินหยวนดิจิทัลของจีน

มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ล้มเหลว ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติต้องหารือตัวเลือกต่าง ๆ เสนอต่อประธานาธิบดี

สหรัฐฯ จะต้องพึ่งพาความร่วมมือจากจีน

หนึ่งในประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาก็คือ สหรัฐฯ จะต้องพึ่งพาจีนในจุดนี้ รัฐมนตรีคลังชี้ว่า

เราคงไม่สามารถหยุดยั้งเศรษฐกิจเกาหลีเหนือได้สำเร็จหากปราศจากความร่วมมือจากจีน และแน่นอนหากเป็นเป้าหมายของพวกเขา พวกเขาคงอยากเห็นเราล้มเหลว

เขายังชี้อีกว่าตลอดระยะ 30 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ไม่เคยโน้มน้าวอิทธิพลของจีนได้สำเร็จเลย

ที่ประชุมขัดจังหวะโดยพิจารณาอีกสถานการณ์หนึ่ง คราวนี้ ระบบ SWIFT ถูกโจมตีทางไซเบอร์ และเงินถูกขโมยจากธนาคารพาณิชย์ในเยอรมนี ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

การทดลองทางความคิดที่น่าสนใจ

ในที่สุดคำแนะนำของที่ประชุมต่อประธานาธิบดีก็คือ ต้องมีมาตรการป้องกันการแยกเศรษฐกิจโลกออกเป็นสองทาง

การติดอาวุธโดยใช้ SWIFT มีประสิทธิภาพน้อยลงมาก แม้ว่าบางคนในที่ประชุมพยายามตั้งใจทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นและใช้กลยุทธ์ที่มีอยู่เดิม ผู้นำทางความคิดรู้สึกว่าควรทำอะไรมากกว่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าสหรัฐฯ มีความสามารถทางด้านสกุลเงินดิจิทัลที่คล้าย ๆ กัน เพื่อฟื้นฟูอิทธิพลทางการเงินกลับมา

รวมถึงตัวเลือกในการกดดันทางการทูตต่อประเทศจีน โดยใช้ข่าวกรองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ หรือพัฒนาเงินดอลลาร์ดิจิทัลของตนเองขึ้นมาแข่งขัน ภัยคุกคามจากการกดดันทางทหารถือเป็นตัวเลือกน่าพึงพอใจน้อยกว่า

ที่มา :   cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต